ทรัมป์ประกาศ! มุ่งให้สหรัฐฯ เป็นศูนย์กลางคริปโตโลก พร้อมผลักดันกฎหมายควบคุมสเตเบิลคอยน์

ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมคริปโตเป็นครั้งแรก

เมื่อวันที่ 20 ประธานาธิบดีทรัมป์ได้กล่าวสุนทรพจน์ผ่านวิดีโอที่บันทึกไว้ล่วงหน้าในงานประชุม Blockworks Digital Asset Summit โดยเขายืนยันว่า ‘สหรัฐฯ จะกลายเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมคริปโตทั่วโลก’ นอกจากนี้ เขายังกล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงของนโยบายกำกับดูแลคริปโตในสหรัฐฯ ว่าเป็นสัญญาณเชิงบวก และชี้ให้เห็นว่าบล็อกเชนสามารถปรับปรุงระบบการเงินและกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจ

ทรัมป์ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของ ‘สเตเบิลคอยน์ที่อิงดอลลาร์สหรัฐฯ’ โดยกล่าวว่าสิ่งนี้เป็นกุญแจสำคัญในการรักษาความเป็นมหาอำนาจทางการเงินของสหรัฐฯ ทั้งนี้ ในวันที่ 23 มกราคม เขาได้ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อจัดตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจด้านสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งต่อมาได้นำไปสู่การประกาศนโยบายเกี่ยวกับการเก็บสำรองบิตคอยน์(BTC) ในเชิงยุทธศาสตร์

นอกจากนี้ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ประธานาธิบดีทรัมป์ยังได้จัด ‘การประชุมสุดยอดเกี่ยวกับคริปโต’ ที่ทำเนียบขาว โดยเชิญผู้นำอุตสาหกรรมเข้าร่วมพูดคุยเรื่องแนวทางกำกับดูแล ในการประชุมดังกล่าว สกอตต์ เบสเซนท์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ได้ระบุว่ารัฐบาลกำลังผลักดันกฎหมายควบคุมสเตเบิลคอยน์ ขณะที่ โบ ไฮนส์ ประธานคณะที่ปรึกษาด้านสินทรัพย์ดิจิทัล ยืนยันว่ากฎหมายดังกล่าวจะถูกนำเสนอต่อประธานาธิบดีภายในสองเดือนข้างหน้า

อย่างไรก็ตาม การประชุมสุดยอดครั้งนี้ได้รับ ‘ปฏิกิริยาที่หลากหลาย’ จากตลาด นักลงทุนสถาบันมองว่านี่เป็นก้าวสำคัญของอุตสาหกรรม แต่ในขณะเดียวกัน ฝ่ายสนับสนุนบิตคอยน์และนักลงทุนรายย่อยบางส่วนกลับรู้สึกผิดหวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จัสติน เบคเคลอร์ หนึ่งในผู้สนับสนุนบิตคอยน์ระดับสูง ได้วิพากษ์วิจารณ์ผ่านโซเชียลมีเดียว่าการประชุมดังกล่าวเป็นเพียง ‘เวทีสำหรับผู้ทำล็อบบี้ด้านเงินดิจิทัลที่ควบคุมโดยรัฐบาล’

ท่ามกลางกระแสตอบรับที่แตกต่างกัน ราคา ‘บิตคอยน์’ ได้ร่วงลง 7.3% หลังจากการประชุมสุดยอดสิ้นสุดลง โดยผู้เชี่ยวชาญมองว่าหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่กระทบความเชื่อมั่นของตลาด คือข้อจำกัดที่กำหนดให้รัฐบาลสามารถซื้อบิตคอยน์เพิ่มได้ก็ต่อเมื่อไม่มีผลกระทบต่อสมดุลทางการคลังของประเทศ