นักเทรดฟันกำไร 1,500 เท่าจาก BUBB ในวันเดียว ก่อนเหรียญร่วง 50% ท่ามกลางข้อสงสัยเรื่องข้อมูลวงใน

นักเทรดคนหนึ่งทำกำไรจากเหรียญมีมบนเชนไบแนนซ์ ‘BUBB’ ได้กว่า 1,500 เท่าภายในวันเดียว ก่อนที่ราคาของเหรียญจะร่วงลงกว่า 50% ทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับ 'การซื้อขายโดยใช้ข้อมูลภายใน'

เมื่อวันที่ 22 ตามข้อมูลจากแพลตฟอร์มบล็อกเชน Lookonchain พบว่านักลงทุนรายหนึ่งได้ซื้อ BUBB จำนวน 43.94 ล้านเหรียญ ด้วยเงินเพียง 304 ดอลลาร์ (ประมาณ 44,300 บาท) จากนั้นขาย 28.9 ล้านเหรียญ ทำกำไรได้ 122,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 17.8 ล้านบาท) และยังถือไว้ 15.64 ล้านเหรียญ คิดเป็นมูลค่าราว 360,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 52.5 ล้านบาท) ส่งผลให้กำไรโดยรวมของเขาสูงถึง 482,000 ดอลลาร์ (ราว 70 ล้านบาท)

การซื้อขายดังกล่าวเกิดขึ้นไม่นานหลังมูลค่าตลาดของ BUBB พุ่งแตะ 43.7 ล้านดอลลาร์ (ราว 638 ล้านบาท) ก่อนที่ราคาจะร่วงลงกว่า 50% ทำให้มูลค่าตลาดเหลือเพียง 22.6 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 330 ล้านบาท) ท่ามกลางข้อสงสัยว่านี่อาจเป็นการซื้อขายที่อาศัยข้อมูลภายใน

กระแสความเชื่อมั่นต่อเหรียญ BUBB เพิ่มขึ้นหลังจาก ‘ยี่ เหอ’ (Yi He) ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายดูแลลูกค้าของไบแนนซ์ ได้แสดงความเห็นต่อโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับโครงการ ทำให้เกิดความคาดหวังว่าเหรียญนี้อาจถูกลิสต์บนไบแนนซ์ นำไปสู่การที่นักลงทุนบางรายรีบเข้าซื้อก่อน

ในช่วงหลัง ปัญหาการ ‘ปั่นราคา’ และการโกงในตลาดมีมคอยน์เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ล่าสุด WOLF เหรียญมีมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ฮอลลีวูด ‘The Wolf of Wall Street’ ก็เผชิญชะตากรรมเดียวกันโดยราคาร่วงลง 99% ทั้งที่เคยมียอดมูลค่าตลาดสูงถึง 42 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 614 ล้านบาท) แต่สุดท้ายพบว่า 82% ของซัพพลายถูกถือครองโดยหน่วยงานเดียว ทำให้ขาดความน่าเชื่อถือ

ผู้เชี่ยวชาญในวงการเตือนว่าตลาดมีมคอยน์มีความเสี่ยงสูง และต้องการกลไกคุ้มครองนักลงทุนที่เข้มงวดขึ้น อันเดร เกรเชฟ พาร์ตเนอร์จาก DWF Labs ระบุว่า “ความยุติธรรมในการกระจายเหรียญในช่วงต้นเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันการใช้ข้อมูลภายในและการเก็งกำไรที่ไม่เป็นธรรม” พร้อมย้ำว่าต้องมีมาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้กลยุทธ์การซื้อขายที่ซับซ้อนทำให้ผู้ลงทุนทั่วไปเสียเปรียบ

เมื่อพิจารณาจากกรณีล่าสุด นักลงทุนควรใช้ความระมัดระวังอย่างมากในการลงทุนในเหรียญมีมเพื่อลดความเสี่ยงจากการถูกหลอกลวง