DWF Labs เปิดตัว ‘Liquid Fund’ มูลค่า 250 ล้านดอลลาร์ หนุนการเติบโตบล็อกเชนและเว็บ3

DWF Labs เปิดตัวกองทุน ‘Liquid Fund’ มูลค่า 250 ล้านดอลลาร์

DWF Labs บริษัทผู้ให้บริการสภาพคล่องและการลงทุนที่ตั้งอยู่ในดูไบ ประกาศเปิดตัวกองทุน ‘Liquid Fund’ มูลค่า 250 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 9,150 ล้านบาท) โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อสนับสนุนการเติบโตของโครงการบล็อกเชนระดับกลางถึงขนาดใหญ่ และเร่งการนำเทคโนโลยีเว็บ3 ไปใช้ในโลกความเป็นจริง

สำหรับการลงทุนรอบแรกของกองทุนนี้ DWF Labs ตั้งเป้าจะลงนามในข้อตกลงการลงทุนมูลค่า 25 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 915 ล้านบาท) และ 10 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 366 ล้านบาท) ตามลำดับ ตามประกาศเมื่อวันที่ 24 มีนาคม กองทุนดังกล่าวจะให้การสนับสนุนโครงการผ่านการลงทุนเชิงกลยุทธ์ที่มีมูลค่าตั้งแต่ 10 ล้านดอลลาร์ไปจนถึง 50 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,830 ล้านบาท) เพื่อช่วยให้โครงการพัฒนาแนวทางการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนได้จริง

อันเดรย์ กราเชฟ(Andrei Grachev) หุ้นส่วนผู้จัดการของ DWF Labs ให้ความเห็นว่า “เรามุ่งเน้นการสนับสนุนโครงการระดับกลางและขนาดใหญ่ เนื่องจากเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการนำบล็อกเชนไปใช้ในวงกว้าง” พร้อมเสริมว่า “เทคโนโลยีและคุณประโยชน์เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ ผู้ใช้ต้องค้นพบโครงการ เข้าใจคุณค่า และสร้างความไว้วางใจ”

กองทุนนี้ยังมีบทบาทสำคัญในการขยายระบบนิเวศของบล็อกเชนและเพิ่มสภาพคล่องให้ตลาด ผ่านการพัฒนากลยุทธ์การเติบโต การสนับสนุนตลาดสินเชื่อ การเพิ่มความแข็งแกร่งของแบรนด์ และส่งเสริมกิจกรรมในภาคส่วนสเตเบิลคอยน์และการเงินแบบกระจายอำนาจ(DeFi)

หลายคนมองว่าการเคลื่อนไหวของ DWF Labs มีความคล้ายคลึงกับแนวทางของ 0G Foundation ที่เพิ่งประกาศกองทุนสนับสนุนโครงการ DeFi ที่ใช้ AI มูลค่า 88 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3,220 ล้านบาท)

ขณะเดียวกัน อุตสาหกรรมบล็อกเชนยังคงเผชิญกับความท้าทายในการเข้าถึงผู้ใช้รายใหม่ โดยอุปสรรคสำคัญคือ 'ความซับซ้อนของกระบวนการเริ่มต้นใช้งาน' ชินทาน ทูราคิยา(Chintan Turakhia) ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีของคอยน์เบส(Coinbase) ระบุว่า “หากเราต้องการดึงดูดผู้ใช้กลุ่มใหม่อีก 1 พันล้านคน เราต้องกำจัดอุปสรรคทั้งหมดในกระบวนการเริ่มต้นใช้งาน” พร้อมชี้ว่าการตั้งค่ากระเป๋าเงินดิจิทัล ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม และการซื้อโทเคนดั้งเดิม ยังคงเป็นปัญหาสำหรับผู้ใช้โดยทั่วไป

DWF Labs หวังว่ากองทุน Liquid Fund จะช่วยเติมเต็มช่องว่างของอุตสาหกรรม โดยสนับสนุนการเติบโตของโครงการบล็อกเชน และสร้างแนวทางที่เอื้อต่อการนำเทคโนโลยีมาใช้ในวงกว้างมากขึ้น 🚀