กระแสเงินทุนอีเธอเรียม(ETH) ETF แซงหน้าบิตคอยน์(BTC) ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ

ความต้องการของสถาบันต่ออีเธอเรียม(ETH) ETF เติบโตเร็วกว่าบิตคอยน์(BTC)

นับตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม บิตคอยน์ ETF มีความเคลื่อนไหวผันผวนหลังมาตรการภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์ ส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจมหภาค ในทางตรงกันข้าม อีเธอเรียม ETF มีการไหลเข้าสุทธิต่อเนื่องในช่วงเวลาเดียวกัน และเป็นครั้งแรกที่สามารถแซงหน้าบิตคอยน์ ETF ได้

ย้อนกลับไปในเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว อีเธอเรียม ETF เปิดตัวไม่ราบรื่นนัก โดยในช่วงแรก นักลงทุนเลือกเทขายสินทรัพย์ของ กองทุนทรัสต์อีเธอเรียมของเกรย์สเกล(ETHE) และโยกเงินไปยัง IBIT และบิตคอยน์ ETF อื่น ๆ อย่างไรก็ตาม หลังการเลือกตั้งสหรัฐบรรยากาศตลาดเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน อีเธอเรียม ETF กลับมามีการไหลเข้าสุทธิยาวนานถึง 19 วัน และแนวโน้มนี้ยังคงดำเนินต่อไปในช่วงกลางเดือนมกราคม รวมถึงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งเห็นการไหลเข้าสุทธิที่แข็งแกร่งอีกครั้ง

โดยเฉพาะหลังจากวันที่ 29 มกราคม อีเธอเรียม ETF ไม่เกิดการไหลออกสุทธิอีกเลย ในสัปดาห์แรกของเดือนกุมภาพันธ์ มีการไหลเข้าสุทธิในวันจันทร์ 83.6 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.2 แสนล้านวอน), วันอังคาร 307.8 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4.4 แสนล้านวอน), วันพุธ 18.1 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 263 พันล้านวอน) และวันพฤหัสบดี 10.7 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 155 พันล้านวอน) ส่วนในวันศุกร์ การเคลื่อนไหวของเงินทุนอยู่ในระดับทรงตัว

ในทางตรงกันข้าม บิตคอยน์ ETF เผชิญกับแนวโน้มที่แตกต่างกัน หลังมาตรการภาษีของทรัมป์ที่มุ่งเป้าไปยังจีน เม็กซิโก และแคนาดา ส่งผลให้นักลงทุนดึงเงินออกจากบิตคอยน์ ETF ในวันจันทร์ 234.4 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3.4 แสนล้านวอน) และวันพฤหัสบดี 140.2 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.0 แสนล้านวอน) แม้จะมีการไหลเข้าสุทธิกลับมาในวันอังคาร 340 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4.9 แสนล้านวอน), วันพุธ 66.4 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 963 พันล้านวอน) และวันศุกร์ 171.3 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.4 แสนล้านวอน) แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของความสนใจในตลาดจากบิตคอยน์ไปสู่อีเธอเรียม

แนวโน้มที่แตกต่างกันนี้ยังส่งผลกระทบต่อราคาของเหรียญทั้งสอง โดยบิตคอยน์ลดลงประมาณ 3% ในช่วงเวลาดังกล่าว และยังคงรักษาระดับที่ 92,000 ดอลลาร์ ขณะที่อีเธอเรียมร่วงลงกว่า 14% และยังต้องต่อสู้เพื่อฟื้นตัวเหนือระดับ 2,600 ดอลลาร์

นักวิเคราะห์กำลังจับตาว่าความแตกต่างของกระแสเงินใน ETF ของบิตคอยน์และอีเธอเรียมนี้ จะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มราคาสินทรัพย์และพฤติกรรมของนักลงทุนในระยะยาวอย่างไร