แซม อัลต์แมนคาดการณ์ ต้นทุน AI ลดลง 10 เท่าต่อปี อาจพลิกโฉมเศรษฐกิจโลก

แซม อัลต์แมน ซีอีโอของโอเพ่นเอไอ(OpenAI) เปิดเผยว่าต้นทุนการดำเนินงานของปัญญาประดิษฐ์(AI) กำลังลดลงในอัตรา 10 เท่าต่อปี ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาสินค้าทั่วไปลดลง อย่างไรก็ตาม สินค้าหรูหราหรือทรัพยากรที่มีความหายากอาจมีราคาสูงขึ้นแทน

เมื่อวันที่ 9 อัลต์แมนโพสต์บนบล็อกของเขาว่า “ค่าใช้จ่ายในการใช้ AI ในระดับหนึ่งกำลังลดลงประมาณ 10 เท่าต่อปี" พร้อมระบุว่าการลดลงของต้นทุนทำให้การใช้งาน AI เพิ่มขึ้น เขาอธิบายว่า ตั้งแต่การเปิดตัวโมเดล GPT-4 เมื่อต้นปี 2023 และการพัฒนาเป็น GPT-4o ในช่วงกลางปี 2024 ต้นทุนในการดำเนินงานลดลงถึง 150 เท่า

อัตราการลดลงของต้นทุนนี้เร็วกว่า ‘กฎของมัวร์’ ซึ่งเป็นกฎที่ระบุว่าจำนวนทรานซิสเตอร์ในวงจรรวมจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าทุกสองปี ส่งผลให้ประสิทธิภาพดีขึ้นและต้นทุนต่ำลง อัลต์แมนคาดการณ์ว่า AI อาจมีบทบาทคล้ายกับทรานซิสเตอร์ในเชิงเศรษฐกิจ โดยกล่าวว่า “AI สามารถสร้างการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ที่สำคัญและแพร่ขยายไปทั่วระบบเศรษฐกิจ”

แม้ว่า AI อาจช่วยลดราคาสินค้าได้โดยรวม แต่เขาชี้ให้เห็นว่าทรัพยากรที่มีจำนวนจำกัดอาจมีราคาเพิ่มขึ้น “ปัจจุบัน ราคาสินค้าหลายอย่างขึ้นอยู่กับข้อจำกัดด้านสติปัญญาและพลังงาน” แต่เขาเสริมว่า “ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด เช่น ที่ดิน หรือสินค้าหรูหรา อาจมีราคาสูงขึ้นแทน”

อัลต์แมนยังกล่าวถึงแนวทางต่าง ๆ ที่จะทำให้คนทั่วโลกได้ประโยชน์จาก AI โดยระบุว่า “เรากำลังพิจารณาหลายทางเลือก รวมถึงการมอบ ‘งบประมาณคอมพิวติ้ง’ ให้กับทุกคนเพื่อให้สามารถเข้าถึง AI ได้อย่างทั่วถึง”

สุดท้าย เขาเชื่อว่าต้นทุนของ AI จะลดลงอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงระดับสติปัญญาขั้นสูงได้ “ภายในปี 2035 ทุกคนควรมีโอกาสเข้าถึงสติปัญญาในระดับของมนุษย์ทั้งหมดรวมกัน ณ ปี 2025” อัลต์แมนกล่าว

ในขณะที่ต้นทุนของ AI กำลังลดลง ประเด็นนี้ได้รับความสนใจมากขึ้นเนื่องจาก ‘ดีพซีค’ (DeepSeek) บริษัท AI จากจีน ได้เปิดตัวโมเดลที่มีต้นทุนต่ำ ซึ่งส่งผลกระทบต่อตลาดอย่างมาก โดยเฉพาะบริษัทฮาร์ดแวร์ราคาแพงอย่างเอ็นวิเดีย(NVIDIA) นอกจากนี้ บริษัทรถยนต์และเทคโนโลยีของจีนยังเริ่มนำ AI ของดีพซีคมาใช้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด