เทสลา(TSLA) มีกำไรจากการถือครองบิตคอยน์(BTC) ราว 600 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ 4 ปี 2024 สาเหตุหลักมาจากมาตรฐานบัญชีใหม่ที่อนุญาตให้บริษัทสามารถสะท้อนมูลค่าตลาดของสินทรัพย์ดิจิทัลได้ ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมมองว่าการเปลี่ยนแปลงนี้อาจสร้างโอกาสใหม่ให้กับบริษัทที่ถือครองบิตคอยน์ในการนำสินทรัพย์มาใช้เป็นหลักประกันทางการเงิน
ตั้งแต่ปี 2021 เทสลาได้ลงทุนในบิตคอยน์มูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ แม้ว่าจะขายออกไปกว่า 70% แต่ปัจจุบันยังคงถือครอง 9,720 BTC ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 946 ล้านดอลลาร์ ทำให้ยังคงเป็นหนึ่งในบริษัทมหาชนที่ถือครองบิตคอยน์มากที่สุดในโลกเป็นลำดับที่หก
อีลอน มัสก์(Elon Musk) ซีอีโอของเทสลา เคยกล่าวว่าการขาย BTC ของบริษัทเป็นการทดสอบ ‘สภาพคล่อง’ อย่างไรก็ตาม การที่เทสลาไม่ได้ถือครอง BTC จนถึงปัจจุบันทำให้พลาดโอกาสทำกำไรจำนวนมหาศาล เนื่องจากปัจจุบันราคาบิตคอยน์สูงเกิน 97,000 ดอลลาร์ ส่งผลให้มูลค่าของ BTC 39,474 เหรียญที่เทสลาเคยซื้อครั้งแรกอยู่ที่ราว 3.8 พันล้านดอลลาร์
มาตรฐานบัญชีใหม่ที่ออกโดยคณะกรรมการมาตรฐานการบัญชีการเงินของสหรัฐฯ (FASB) ได้รับการอนุมัติเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถบันทึกสินทรัพย์ดิจิทัลตามมูลค่าตลาด โดยจะมีผลบังคับใช้ในเดือนธันวาคมปีนี้ ก่อนหน้านี้ บริษัทจำเป็นต้องบันทึกผลขาดทุนกรณีราคาคริปโตลดลง แต่ไม่สามารถบันทึกผลกำไรเมื่อมูลค่าเพิ่มขึ้น
การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวได้รับการต้อนรับในเชิงบวกจากนักลงทุน กาดี ไชต์(Gadi Chait) ผู้จัดการฝ่ายการลงทุนของซาโปแบงก์(Xapo Bank) กล่าวว่า “บริษัทต่าง ๆ จะสามารถสะท้อนมูลค่าทางการเงินของบิตคอยน์ได้มากขึ้น ซึ่งช่วยยืนยันสถานะของสินทรัพย์ดิจิทัลในโลกการเงินยุคใหม่”
นอกจากนี้ ยังมีความเป็นไปได้ที่การประเมินสินทรัพย์ตามมูลค่าตลาดนี้จะเอื้อให้บริษัทสามารถใช้บิตคอยน์เป็นหลักประกันทางการเงินได้มากขึ้น จอห์น โกลเวอร์(John Glover) ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการลงทุนของ เลดน์(Ledn) กล่าวเสริมว่า “บริษัทสามารถใช้บิตคอยน์ที่ถืออยู่เป็นหลักประกันเพื่อขอสินเชื่อได้โดยไม่ต้องขายออก” ซึ่งเปิดโอกาสให้ธุรกิจต่าง ๆ ใช้ประโยชน์จากการเพิ่มขึ้นของราคาบิตคอยน์ในระยะยาว ขณะเดียวกันก็เพิ่มสภาพคล่องในการดำเนินงาน
ความเปลี่ยนแปลงในแนวทางบัญชีสอดคล้องกับแนวโน้มการรับรองคริปโตในตลาดทุนโดยเฉพาะจากการเติบโตของกองทุน ETF บิตคอยน์แบบสปอต ปัจจุบันกองทุน ETF เหล่านี้ในสหรัฐฯ ถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลมูลค่ารวมมากกว่า 116 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสะท้อนถึงการยอมรับในระดับสถาบันที่เพิ่มขึ้น
การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้กรณีศึกษาของเทสลาเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ แสดงให้เห็นว่าบิตคอยน์อาจไม่ได้เป็นเพียงสินทรัพย์เพื่อการลงทุนอีกต่อไป แต่กำลังก้าวขึ้นเป็น ‘สินทรัพย์ทางการเงิน’ ที่บริษัทสามารถนำมาใช้ประโยชน์อย่างเป็นระบบ
ความคิดเห็น 0