ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
คณะกรรมการกำกับการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ของสหรัฐฯ (CFTC) ได้ประกาศมาตรการใหม่เกี่ยวกับคดีฉ้อโกงในตลาดคริปโต โดยปรับเปลี่ยนลำดับความสำคัญในการบังคับใช้กฎหมาย
แคโรไลน์ แฟม(Caroline Pham) รักษาการประธาน CFTC เปิดเผยเมื่อวันที่ 4 ว่า องค์กรจะเลิกใช้แนวทางการกำกับดูแลที่มุ่งเน้นเฉพาะการบังคับใช้กฎหมาย และนำกลยุทธ์ใหม่มาใช้งาน ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงนี้ CFTC ได้ประกาศเมื่อวันที่ 10 ว่าได้ดำเนินคดีกับ ราโชว์น รัสเซลล์(Rashawn Russell) ชาวนิวยอร์ก ในข้อหาฉ้อโกงการลงทุนคริปโต
ตามรายงานของทางการสหรัฐฯ รัสเซลล์ดำเนินโครงการฉ้อโกงระหว่างปี 2020-2022 โดยโน้มน้าวให้นักลงทุนฝากเงินเป็นคริปโต รวมเป็นมูลค่าประมาณ 1.5 ล้านดอลลาร์ เขาอ้างว่าจะให้ผลตอบแทนขั้นต่ำ 25% โดยไร้ความเสี่ยง แต่สุดท้ายกลับไม่สามารถทำได้ CFTC ระบุว่า รัสเซลล์ได้ยอมรับข้อกล่าวหาฉ้อโกงผ่านระบบสื่อสาร และจะรับโทษจากศาลแขวงตะวันออกแห่งนิวยอร์ก
คดีนี้ถือเป็นมาตรการทางกฎหมายครั้งสำคัญนับตั้งแต่ CFTC ประกาศกลยุทธ์ใหม่ แฟม เปิดเผยว่าหน่วยงานจะปรับโครงสร้างฝ่ายบังคับใช้กฎหมาย โดยมุ่งเป้าไปที่ 'การฉ้อโกงนักลงทุนรายย่อย' และ 'การฉ้อโกงทางการเงินเชิงซับซ้อนและการปั่นตลาด' พร้อมจัดตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจสองหน่วยเพื่อดูแลเรื่องนี้โดยตรง
การเปลี่ยนแปลงนี้สอดคล้องกับท่าทีของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) ซึ่งได้ประกาศตั้งหน่วยงานพิเศษเพื่อร่างกรอบกำกับดูแลคริปโตเมื่อเดือนมกราคม นอกจากนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ ยังได้แต่งตั้ง มาร์ก อูเยดะ(Mark Uyeda) เป็นประธานรักษาการของ SEC หลังจาก แกรี เกนส์เลอร์(Gary Gensler) ลาออก ซึ่งสะท้อนถึงทิศทางใหม่ของหน่วยงาน
แนวทางใหม่ของ CFTC ได้รับความสนใจมากขึ้นหลังจากกรณีของ FTX ภายใต้การนำของอดีตประธาน รอสติน เบห์นัม(Rostin Behnam) CFTC สามารถดำเนินคดีการฉ้อโกงในภาคคริปโตรวมถึง FTX จนสามารถเรียกค่าเสียหายคืนได้กว่า 17,000 ล้านดอลลาร์ แฟม เน้นย้ำว่าหน่วยงานจะเปลี่ยนนโยบายจากการบังคับใช้กฎหมายหนักหน่วงต่อบริษัทคริปโต ไปสู่การปราบปรามการฉ้อโกงอย่างเป็นระบบ
การเปลี่ยนแปลงนี้อาจมีผลกระทบสำคัญต่อสภาพแวดล้อมการกำกับดูแลและตลาดคริปโตในสหรัฐฯ ซึ่งต้องติดตามต่อไป
ความคิดเห็น 0