คูคอยน์(KuCoin) เผยรายงานปี 2024: ผู้ใช้ทะลุ 38 ล้านบัญชี ปริมาณเทรด MENA พุ่ง 300%

แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโต ‘คูคอยน์(KuCoin)’ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในเซเชลส์ ได้เปิดเผยรายงานผลการดำเนินงานประจำปี 2024 โดยเนื้อหาหลักของรายงานครอบคลุมถึงการเติบโตของผู้ใช้ทั่วโลก การขยายตัวของตลาดสปอตและฟิวเจอร์ส การปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้น และการลิสต์โทเคนใหม่ที่เพิ่มขึ้น

ในปี 2024 คูคอยน์กลายเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตแห่งแรกที่ลงทะเบียนกับสำนักงานวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินของอินเดีย(FIU) พร้อมได้รับใบอนุญาตด้านกฎระเบียบเพิ่มเติมอีก 5 ฉบับ นอกจากนี้ ยังกระชับมาตรการด้านความปลอดภัยด้วยโครงการ ‘บั๊กบาวน์ตี้’ และเพิ่มความเข้มงวดในกระบวนการต่อต้านการฟอกเงิน(AML) และการยืนยันตัวตน(KYC)

จำนวนผู้ใช้ทั่วโลกเพิ่มขึ้นทะลุ 38 ล้านบัญชี โดยเฉพาะภูมิภาคตะวันออกกลาง-แอฟริกาเหนือ(MENA) และละตินอเมริกาที่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว ปริมาณการซื้อขายสปอตในภูมิภาค MENA พุ่งขึ้น 300% ขณะที่ยุโรปเติบโต 144% ส่วนตลาดฟิวเจอร์สก็มีการขยายตัวต่อเนื่อง พร้อมเพิ่มเซกชันซื้อขาย ‘มิมคอยน์’ โดยเฉพาะ นอกจากนี้ จำนวนโทเคนที่ถูกลิสต์ใหม่เกิน 300 รายการ ซึ่งสูงกว่าปีก่อนหน้า 98% โดยเฉพาะในไตรมาส 4 ที่มีการลิสต์เพิ่มขึ้น 170% หรือเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า

แพลตฟอร์ม ‘บอทเทรดดิ้ง’ ของคูคอยน์ก็มีการเติบโตเช่นกัน จำนวนบอทที่สร้างโดยผู้ใช้ทะลุ 7.5 ล้านตัว เพิ่มขึ้น 36% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่การใช้งาน ‘KuCard’ บัตรเดบิตคริปโตของแพลตฟอร์ม โตขึ้น 48% พร้อมกับการเปิดตัว ‘KuCoin Pay’ ระบบชำระเงินผ่านคริปโต

ด้านการลงทุน คูคอยน์ได้สนับสนุนสตาร์ทอัพในอุตสาหกรรมบล็อกเชนและปัญญาประดิษฐ์(AI) รวมถึงมุ่งเน้นด้านการศึกษา โดยมีผู้ใช้มากกว่า 3 ล้านบัญชีที่เข้าร่วมโครงการการเรียนรู้ผ่านแพลตฟอร์มของบริษัท

ความพยายามด้านความโปร่งใสยังคงดำเนินต่อไป โดยคูคอยน์เผยแพร่ ‘หลักฐานสำรอง'(PoR) ทุกเดือนเพื่อแสดงให้เห็นว่าทรัพย์สินของลูกค้ามีการสำรองเต็ม 100% และตลอดปีที่ผ่านมา แพลตฟอร์มได้รับรางวัลจากอุตสาหกรรมมากกว่า 100 รายการ

สำหรับแผนการในอนาคต คูคอยน์ตั้งเป้าพัฒนา ‘ความปลอดภัย’ ‘นวัตกรรม’ และ ‘ประสบการณ์ผู้ใช้’ ควบคู่กับเทคโนโลยี AI และโซลูชันยุคหน้า ทีมงานของแพลตฟอร์มระบุว่า “ความเชื่อมั่นเป็นหัวใจสำคัญของแพลตฟอร์ม เราจะเพิ่มความปลอดภัย ขยายการร่วมมือกับหน่วยงานกำกับดูแล และนำเสนอนวัตกรรมใหม่เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมคริปโต”