สิงคโปร์เริ่มใช้กฎคุมคริปโตเข้ม 30 มิ.ย.นี้ บังคับใบอนุญาต DTSP ปรับสูงสุด 6.6 ล้านบาท

ธนาคารกลางสิงคโปร์(MAS) เตรียมบังคับใช้กฎเกณฑ์ที่เข้มงวดขึ้นต่อบริษัทคริปโต โดยตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายนนี้ บริษัทที่ไม่มีใบอนุญาตซึ่งให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัลจากต่างประเทศจะถูกสั่งให้ *หยุดดำเนินกิจการทั้งหมด*

MAS ระบุว่าบริษัทคริปโตในประเทศที่ต้องการให้บริการโทเคนดิจิทัลในต่างประเทศ ต้องยื่นขอใบอนุญาต *ผู้ให้บริการโทเคนดิจิทัล(DTSP)* โดยบังคับตามกฎหมายตลาดบริการทางการเงิน (FSM) ที่ออกตั้งแต่ปี 2022 หน่วยงานกำกับฯ ย้ำว่าจะไม่มีการขยายเวลาผ่อนผันเพิ่มเติม เนื่องจากได้ให้เวลาผู้ประกอบการเตรียมความพร้อมมามากเพียงพอแล้ว อีกทั้งยังเตรียมเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบพฤติกรรมต้องสงสัยที่อาจเป็นความพยายามหลีกเลี่ยงกฎ

ภายใต้กฎใหม่ บริษัทคริปโตต้องมีเงินทุนขั้นต่ำอย่างน้อย 185,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือราว 4.9 ล้านบาทไทย พร้อมทั้งดำเนินการ *รู้จักลูกค้า(KYC)* ปฏิบัติตาม *ข้อกำหนดการเปิดเผยข้อมูลของ FATF* และเป็นไปตาม *มาตรฐานความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีของสิงคโปร์*

แม้แต่ผู้ประกอบการรายบุคคล หากดำเนินกิจการในสิงคโปร์ ก็จำเป็นต้องได้รับใบอนุญาตเช่นกัน อย่างไรก็ตาม บริษัทที่เคยได้รับใบอนุญาตมาก่อน หรืออยู่ภายใต้การยกเว้นตามกฎหมายเดิมจะไม่อยู่ในขอบเขตบังคับใช้ครั้งนี้

ตามมาตรา 137 ของ FSM ผู้ที่ละเมิดกฎอาจถูกปรับสูงสุด *250,000 ดอลลาร์สิงคโปร์* หรือราว 6.6 ล้านบาทไทย และโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปัจจุบันมีบริษัท 33 แห่งที่ได้รับใบอนุญาตให้ดำเนินงานในฐานะผู้ให้บริการโทเคนสำหรับการชำระเงินดิจิทัล รวมถึงบริษัทชื่อดังอย่าง *คอยน์เบส(COIN)* และ *แองเคอเรจ*

MAS คาดว่า มาตรการใหม่นี้จะช่วย *ลดความเสี่ยงด้านการฟอกเงินและการจัดหาเงินทุนให้กับการก่อการร้าย* อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ความเข้มงวดนี้สะท้อนความมุ่งมั่นของสิงคโปร์ในการเป็นศูนย์กลางสินทรัพย์ดิจิทัลที่ปลอดภัยและน่าเชื่อถือในระดับโลก