อดีตอัยการนิวยอร์กลาออก หลังถูกกดดันให้ยุติคดีทุจริตนายกเทศมนตรีผู้หนุนบิตคอยน์

อดีตอัยการเขตใต้ของนิวยอร์ก ลาออก หลังถูกกดดันให้ยุติสอบสวนคดีทุจริตของนายกเทศมนตรี

เมื่อวันที่ 24 มีรายงานว่า แดเนียล ซาซูน อดีตรักษาการอัยการเขตใต้ของนิวยอร์ก ประกาศลาออกจากตำแหน่งอย่างกะทันหัน ซึ่งเกิดขึ้นไม่นานหลังจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐมีคำสั่งให้ยุติการสอบสวนคดีทุจริตของนายกเทศมนตรีนิวยอร์ก อีริก อดัมส์

ตามรายงานของนิวยอร์กไทมส์ ซาซูนตัดสินใจลาออกหลังได้รับคำสั่งจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงยุติธรรม ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยประธานาธิบดีทรัมป์ ทำให้เขาไม่สามารถเดินหน้าสอบสวนคดีของอดัมส์ต่อไปได้ ซาซูนเคยเป็นผู้นำทีมอัยการในคดีใหญ่หลายคดี รวมถึงคดีของ แซม แบงค์แมน-ฟรายด์ อดีตซีอีโอของ FTX และกรณีพิพาททางกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับวงการคริปโต

อดัมส์ถูกฟ้องเมื่อเดือนกันยายน 2024 ในข้อหาว่ารับเงินสนับสนุนการเลือกตั้งอย่างผิดกฎหมายจากรัฐบาลตุรกี อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ออกมาให้การสนับสนุนอดัมส์ โดยระบุว่าการฟ้องร้องครั้งนี้เป็น "แรงจูงใจทางการเมือง" และมุ่งเป้าไปที่อดัมส์เนื่องจากเขาวิพากษ์วิจารณ์นโยบายผู้อพยพของรัฐบาลไบเดน หลังจากนั้น อดัมส์เดินทางไปยังรีสอร์ตมาร์อะลาโกของทรัมป์ในฟลอริดา ซึ่งทำให้เกิดข้อกังขาว่า การพบปะครั้งนี้เกี่ยวข้องกับคำสั่งยุติการสอบสวนจากกระทรวงยุติธรรมหรือไม่

แม้ว่าซาซูนจะลาออกแล้ว แต่ยังไม่มีการแต่งตั้งผู้สืบทอดตำแหน่งอัยการเขตใต้ของนิวยอร์กอย่างเป็นทางการ โดยหนึ่งในตัวเต็งที่ถูกพูดถึงคือ เจย์ เคลย์ตัน อดีตประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(SEC) ซึ่งอาจต้องผ่านกระบวนการรับรองจากวุฒิสภาสหรัฐ

ทั้งนี้ อดัมส์เป็นนักการเมืองที่สนับสนุนคริปโตอย่างเปิดเผย ตั้งแต่ช่วงต้นของการดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรี เขาเคยประกาศรับเงินเดือน 3 เดือนแรกเป็นบิตคอยน์(BTC) และแสดงความตั้งใจผลักดันให้มหานครนิวยอร์กเป็น "ศูนย์กลางของบิตคอยน์" อย่างไรก็ตาม ข้อกล่าวหาทุจริตล่าสุดอาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของเขา และสร้างความระแวงต่อบทบาทของคริปโตในการเมืองสหรัฐ

การลาออกของซาซูนและการสอบสวนคดีของอดัมส์ นับเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่อุตสาหกรรมคริปโตจับตามอง เนื่องจากอาจส่งผลต่อทิศทางนโยบายด้านสินทรัพย์ดิจิทัลในเมืองนิวยอร์กในอนาคต