กฎระเบียบด้านคริปโตของสหภาพยุโรป ‘MiCA’ สร้างความเชื่อมั่นอุตสาหกรรม หลังผ่านพ้น 200 วัน
หลังจากกรอบกำกับดูแล ‘กฎระเบียบตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล’ หรือ *MiCA* ของสหภาพยุโรป (EU) มีผลบังคับใช้มาแล้วกว่า 200 วัน ปรากฎว่าความกังวลในช่วงเริ่มต้นกลับไม่เป็นจริง โดยทั้งภาคอุตสาหกรรมและผู้ใช้งานในวงการคริปโตส่วนใหญ่ต่างยอมรับว่า *MiCA* ส่งผลเชิงบวกต่อภาพรวมของตลาดคริปโตในยุโรป
ในช่วงแรกของการประกาศใช้ *MiCA* มีเสียงวิจารณ์ว่า กฎเกณฑ์ดังกล่าวจะเป็น *อุปสรรค* ต่อการเติบโตของบริษัทคริปโต โดยเฉพาะเงื่อนไขที่เข้มงวดต่อผู้ให้บริการแลกเปลี่ยน (Exchange) และการบังคับให้ยืนยันตัวตนผู้ใช้อย่างเข้มงวด อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลล่าสุดพบว่า ภาพรวมของอุตสาหกรรมกลับตรงข้ามกับที่หลายฝ่ายเคยคาดการณ์ไว้
ในช่วงสองไตรมาสที่ผ่านมา มีแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลกจำนวนมากขยายตลาดเข้าสู่ทวีปยุโรปมากขึ้น สะท้อนว่า *MiCA* ไม่ได้เป็นเพียงข้อจำกัด แต่กลับกลายเป็น ‘แรงหนุน’ ให้ตลาดยุโรปแข็งแกร่งขึ้นในฐานะศูนย์กลางคริปโต ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญในภาคส่วนระบุว่า “MiCA ไม่ได้ทำลายอุตสาหกรรมคริปโตในยุโรปอย่างที่กังวล แต่ในทางกลับกัน *ส่งเสริมการเข้าร่วมของนักลงทุน และเป็นกลไกสำคัญในการกำกับทิศทางอุตสาหกรรมยุคใหม่*”
หนึ่งในประเด็นสำคัญคือ การที่ *MiCA* ช่วยเสริมสร้าง *ความเชื่อมั่น* ให้กับผู้ใช้งาน เพราะมีการออกมาตรการปกป้องสิทธิ์และเพิ่มความปลอดภัยในระดับนโยบาย ด้วยเหตุนี้คริปโตในยุโรปจึงเริ่มมี *ภาพลักษณ์เชิงบวกมากขึ้นในสายตานักลงทุนทั่วโลก*
แหล่งข่าวในภาคอุตสาหกรรมบางรายยังมองว่า จุดแข็งของกฎระเบียบนี้คือความชัดเจนเชิงนโยบาย ซึ่งกลายเป็น ‘เกณฑ์อ้างอิง’ ที่บริษัทต่างชาติสามารถใช้วางแผนการเข้าสู่ตลาดยุโรปได้ง่ายยิ่งขึ้น ส่งผลให้ยุโรปเริ่มมีบทบาทแข็งแกร่งขึ้นในฐานะ *ศูนย์กลางคริปโตที่มีมาตรฐานและคาดการณ์ทิศทางได้มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก*
กรณีของ *MiCA* จึงกำลังกลายเป็นต้นแบบนโยบายทั่วโลก ที่แสดงให้เห็นว่า การมีกฎระเบียบที่รัดกุมไม่จำเป็นต้องขัดขวางนวัตกรรมเสมอไป ตรงกันข้าม หากวางแผนอย่างเหมาะสม กฎเหล่านี้สามารถช่วยสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่เสถียร พร้อมทั้งดึงดูดนักลงทุนและผู้ประกอบการเข้ามาสู่ระบบนิเวศได้อย่างยั่งยืน
ความคิดเห็น 0