โซลานา(SOL) ร่วงกว่า 10% แตะระดับ 162 ดอลลาร์ หลังเผชิญปัญหากิจกรรมเครือข่ายลดลงและความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ถดถอย
การปรับฐานของโซลานาในครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางการลดลงของกิจกรรมบนเครือข่ายที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ข้อมูลระบุว่า จำนวนผู้ใช้งานเครือข่ายโซลานาลดลงจาก 18.5 ล้านรายเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน เหลือเพียง 8.4 ล้านราย คิดเป็นการลดลงถึง 55% ในขณะเดียวกัน ปริมาณธุรกรรมบนเครือข่ายก็ร่วงลงอย่างหนักจาก 2 พันล้านดอลลาร์ เหลือเพียง 26 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงสภาพคล่องในระบบที่ลดลงอย่างชัดเจน
ประเด็นอื้อฉาวด้านความปลอดภัยก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กระทบความเชื่อมั่นของนักลงทุน โดยมีรายงานว่า กระเป๋าเงินบนบล็อกเชนของโซลานาถูกนำไปใช้ในโครงการหลอกลวงที่เกี่ยวข้องกับชื่อของบุคคลสำคัญทางการเมืองอย่าง 'ลิบรา(LIBRA)' และ 'เมลาเนีย(MELANIA)' แหล่งข่าวระบุว่า โครงการเหล่านี้หลอกล่อเงินลงทุนจากผู้ใช้ ก่อนจะปิดตัวลงอย่างฉับพลัน ส่งผลให้ตลาดกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของระบบนิเวศของโซลานามากขึ้น
นอกจากปัจจัยเหล่านี้แล้ว ตลาดกำลังเฝ้าจับตาการปลดล็อกโทเค็นครั้งใหญ่ ซึ่งอาจเร่งแรงเทขายเพิ่มเติม ตามแผนที่กำหนดไว้ โทเค็น SOL จำนวนกว่า 15 ล้านเหรียญจะเข้าสู่ตลาดภายในเดือนเมษายน มูลค่ารวมประมาณ 7 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งอาจสร้างแรงกดดันต่อราคาต่อไป นักวิเคราะห์มองว่า อุปทานที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้ราคาหล่นลงไปอีก
โซลานายังเผชิญการแข่งขันที่รุนแรงกับสกุลเงินดิจิทัลชั้นนำอื่น ๆ โดยคู่ซื้อขาย SOL/ETH ลดลงถึง 28% ตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่อ่อนแอเมื่อเทียบกับอีเธอเรียม(ETH) ข้อมูลจาก LookOnChain ระบุว่า มูลค่าของสเตเบิลคอยน์ที่ไหลออกจากเครือข่ายในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาแตะ 772 ล้านดอลลาร์ ซึ่งยิ่งซ้ำเติมสถานการณ์ด้านสภาพคล่องของโซลานาเข้าไปอีก
เส้นทางในอนาคตของโซลานาจะขึ้นอยู่กับความสามารถในการฟื้นตัวของสภาพคล่องในเครือข่าย และการเรียกคืนความเชื่อมั่นจากนักลงทุนในตลาด นักวิเคราะห์เตือนว่า แม้โซลานาอาจยังคงเผชิญกับแรงขายในระยะสั้น แต่หากเครือข่ายสามารถสร้างเสถียรภาพและกระตุ้นปริมาณการซื้อขายกลับมา ก็มีโอกาสที่ราคาจะฟื้นตัวขึ้นได้ในระยะยาว
ความคิดเห็น 0