ตลาดมีมคอยน์บนโซลานาสะเทือน! นักลงทุนแห่ชอร์ต หลังความเชื่อมั่นลดลง

ตลาด ‘มีมคอยน์’ บนบล็อกเชนโซลานา(SOL) กำลังเผชิญกับกระแสความไม่แน่นอน และทำให้นักลงทุนมีมุมมองเชิงลบ ส่งผลให้ปริมาณการเปิด ‘สถานะชอร์ต’ หรือการเดิมพันว่าราคาโซลานาจะลดลง เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ Cointelegraph รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจาก Coinalyze ว่า อัตราส่วนระหว่างสถานะ ‘ลอง’ และ ‘ชอร์ต’ ของโซลานาในตลาดฟิวเจอร์สลดลงจาก 4 เหลือ 2.5 สะท้อนถึงภาวะตลาดที่มีแนวโน้มเชิงลบต่อสินทรัพย์นี้

ไทเลอร์ เดอร์เดน(Tyler Durden) อินฟลูเอนเซอร์ด้านคริปโต ออกมาให้ความเห็นผ่าน X (Twitter เดิม) เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ว่า "ตลาดกำลังไม่พอใจกับโซลานา" พร้อมเสริมว่าบน Binance สัดส่วนของ ‘สถานะชอร์ต’ ต่อ ‘สถานะลอง’ ได้เพิ่มขึ้นเป็น 4 ต่อ 1 ซึ่งหมายความว่ามีการเทขายเก็งกำไรมากขึ้น

ขณะที่สถานการณ์มีมคอยน์กำลังสั่นคลอน ราคาของโซลานาก็ได้รับผลกระทบ โดยข้อมูลจาก CoinGecko ระบุว่า เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ราคา SOL ร่วงลงราว 6% ภายในวันเดียว

**ฟองสบู่มีมคอยน์และผลกระทบต่อระบบนิเวศของโซลานา**

ตลาดมีมคอยน์บนโซลานาขยายตัวอย่างรวดเร็วตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้วด้วยกระแสของโทเคนธีมสุนัข เช่น ‘บองค์(BONK)’ และ ‘ด็อกวิฟแฮต(WIF)’ ซึ่งพุ่งขึ้นจนทำให้มูลค่าตลาดของสองเหรียญนี้ทะลุ 4 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 146,000 ล้านบาท รายงานระบุว่า ความนิยมของมีมคอยน์ทำให้รายได้จากแอปพลิเคชันบนโซลานาเพิ่มขึ้นถึง 213% ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2024

อย่างไรก็ตาม เมื่อล่าสุดมีการขายหุ้นภายในและนักลงทุนรายย่อยขาดทุนจำนวนมาก ก็ทำให้ความเชื่อมั่นต่อโซลานาถดถอยลง นักเทรดนามแฝง ‘Runner XBT’ แสดงความเห็นบน X เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ว่า "ปัญหาที่กำลังโผล่ขึ้นมาเริ่มกระทบต่อระบบนิเวศของโซลานาอย่างรุนแรง"

**เหตุการณ์สำคัญ: การล่มสลายของ LIBRA และ TRUMP**

เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เหรียญ ‘ลิบรา(LIBRA)’ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าได้รับการโปรโมตโดย อาเลฮานโดร ไมเลย์ ประธานาธิบดีอาร์เจนตินา ประสบการสูญเสียมูลค่าตลาดถึง 4.4 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 161,000 ล้านบาท) ภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังเปิดตัว แม้ว่าไมเลย์จะลบโพสต์โปรโมตในภายหลัง แต่เขาก็ถูกนักลงทุนฟ้องร้องในข้อหาหลอกลวง

ขณะเดียวกัน โทเคน ‘ออฟฟิเชียลทรัมป์(TRUMP)’ ซึ่งเชื่อมโยงกับประธานาธิบดีทรัมป์ ก็ประสบภาวะขาดทุนเช่นกัน โดยมูลค่าตลาดลดลงมากกว่า 20 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 730,000 ล้านบาท) คิดเป็นการร่วงลงประมาณ 75% จากจุดสูงสุด CoinGecko ยังรายงานอีกว่า ณ วันที่ 17 กุมภาพันธ์ โทเคน TRUMP กว่า 80% ถูกถือครองโดยวงใน

เวสตี(Westie) นักวิเคราะห์จาก Blockworks ให้ความเห็นว่า "กรณีของ TRUMP เป็นหนึ่งในตัวอย่างของการขายหุ้นโดยวงในที่ชัดเจนที่สุด" ซึ่งสะท้อนความเสี่ยงของเหรียญที่ขับเคลื่อนด้วยการเก็งกำไร

**อนาคตของโซลานา: ยังมีศักยภาพการเติบโตหรือไม่?**

แม้จะเผชิญกับแรงกดดันจากตลาดมีมคอยน์ โซลานายังคงมีปริมาณธุรกรรมเครือข่ายที่แข็งแกร่ง ข้อมูลจาก DefiLlama ชี้ว่า บล็อกเชนโซลานายังสามารถสร้างรายได้สูงกว่าทั้งอีเธอเรียม(ETH) และเครือข่ายเลเยอร์สองหลัก

อย่างไรก็ตาม การลดลงของกระแสมีมคอยน์ ทำให้เกิดคำถามถึงศักยภาพการเติบโตของโซลานาในระยะยาว นักลงทุนอาจต้องพิจารณาปัจจัยพื้นฐาน เช่น การใช้งานและความเสถียรของเครือข่าย มากกว่าการมุ่งเน้นเฉพาะกระแสในช่วงสั้น