โซลานา(SOL) ร่วง 6.8% ท่ามกลางความเชื่อมั่นที่ลดลง นักวิเคราะห์เตือนแนวโน้มขาลึก

โซลานา(SOL) กำลังเผชิญกับแนวโน้มขาลง โดยมีความเป็นไปได้ที่จะเผชิญแรงขายเพิ่มเติม ข้อมูลตลาดชี้ให้เห็นว่าความสนใจของผู้ใช้งานต่อระบบนิเวศการเงินแบบกระจายอำนาจ(DeFi) บนโซลานากำลังลดลง ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อแนวโน้มเชิงลบนี้

ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ราคาของโซลานาลดลง 6.8% มาอยู่ที่ 180.80 ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าการลดลงเฉลี่ยของตลาดคริปโตทั้งหมดที่ 1.72% อย่างมีนัยสำคัญ นักวิเคราะห์ระบุว่า ปัจจัยหลักที่ทำให้ราคาลดลง ได้แก่ ▲ การเกิดขึ้นของโครงการหลอกลวง(Rug Pull) อย่างต่อเนื่อง ▲ ปริมาณการซื้อขายบนตลาดกระจายอำนาจ(DEX) ที่ลดลง ▲ สัญญาณทางเทคนิคที่บ่งบอกถึงแนวโน้มกลับตัวขาลง

รายงานจากบริษัทวิเคราะห์บล็อกเชน Bubblemaps ระบุว่า มีความเกี่ยวข้องระหว่างเหรียญมีม ‘เมลาเนีย(MELANIA)’ ซึ่งเชื่อมโยงกับเมลาเนีย ทรัมป์ และ ‘ลิบรา(LIBRA)’ ที่เกี่ยวข้องกับฮาเวียร์ มิลเลย์ ประธานาธิบดีอาร์เจนตินา โดยพบว่าทั้งสองโครงการถูกควบคุมโดยกลุ่มเดียวกัน นอกจากนี้ มีข้อมูลเปิดเผยว่ากระเป๋าเงินที่อยู่บนเครือข่ายโซลานา (0xcEA) มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเปิดตัวและการเคลื่อนย้ายเงินทุนของทั้งสองโครงการ ซึ่งทำให้ความเชื่อมั่นในเครือข่ายโซลานาลดลง

นอกจากนี้ แพลตฟอร์มออกเหรียญมีม ‘Pump.fun’ ที่เปิดตัวเมื่อเดือนมกราคม ส่งผลให้มีการสร้างโทเคนคุณภาพต่ำเป็นจำนวนมากและนำไปสู่ภาวะตลาดร้อนแรง หลังจากนั้น หลายโครงการบนแพลตฟอร์มดังกล่าวได้ปิดตัวลงในลักษณะของโครงการหลอกลวง ส่งผลให้เกิดความเสียหายในหมู่นักลงทุนและกระทบต่อชื่อเสียงของโซลานาด้วย เมื่อปริมาณการซื้อขายของโทเคนที่เกี่ยวข้องกับ Pump.fun ลดลง นักลงทุนก็เริ่มถอนทุนออกจากตลาด ทำให้ราคาของโซลานาร่วงลงตามไปด้วย

ข้อมูลออนเชนก็แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่ไม่เป็นบวก เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ปริมาณธุรกรรมรายวันบนเครือข่ายโซลานามีเพียง 9,303 รายการ ลดลงอย่างมากจากจุดสูงสุดของปีนี้ที่ 71,738 รายการเมื่อวันที่ 23 มกราคม เช่นเดียวกับปริมาณการซื้อขายบนตลาด DEX ซึ่งลดลงเรื่อย ๆ นับตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว บ่งชี้ถึงกิจกรรมที่ชะลอตัวลงของเครือข่ายโดยรวม

ในตลาดฟิวเจอร์ส ความเชื่อมั่นเชิงลบต่อโซลานายังคงดำเนินต่อไป โดยเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ สัญญาฟิวเจอร์สที่ยังไม่ปิด(Open Interest) เพิ่มขึ้นจาก 53.1 พันล้านดอลลาร์ เป็น 58.8 พันล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม อัตราการให้กู้ยืม(Funding Rate) ได้เปลี่ยนเป็น -0.27% ซึ่งหมายความว่าคำสั่งขาย(short position) กำลังเพิ่มขึ้นและเกิดแรงกดดันด้านลบต่อราคา

จากมุมมองทางเทคนิค นักวิเคราะห์มองว่ามีโอกาสที่ราคาจะลดลงอีก โดยรูปแบบ ‘Head and Shoulders’ กำลังก่อตัวขึ้นบนกราฟราคา หากแนวรับที่ 180.50 ดอลลาร์ถูกทำลาย อาจส่งผลให้ราคาลดลงอีกสูงสุดถึง 40% สู่ระดับ 110 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม หากสามารถรักษาระดับแนวรับนี้ไว้ได้ ก็อาจมีโอกาสเด้งกลับไปที่ 215 ดอลลาร์

แม้ว่าราคาโซลานาจะเผชิญแรงกดดันขาลงในระยะสั้น แต่ทิศทางในระยะกลางและระยะยาวจะขึ้นอยู่กับการฟื้นตัวของความเชื่อมั่นและกิจกรรมบนเครือข่าย รวมถึงปัจจัยด้านเทคโนโลยีและการใช้งานภายในระบบนิเวศของโซลานาเอง