รายได้จากแอปบนโซลานา(SOL) พุ่ง 213% ในไตรมาส 4 หนุนโดยกระแสมีกคอยน์

รายได้จากแอปพลิเคชันบนเครือข่ายโซลานา(SOL) พุ่งขึ้นถึง 213% ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีที่ผ่านมา ตามรายงานล่าสุดจากเมสซารี(Messari) พบว่ารายได้สะสมของแอปพลิเคชันบนโซลานาเพิ่มขึ้นจาก 268 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 38,910 ล้านบาท) ในไตรมาสที่ 3 เป็น 840 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 121,800 ล้านบาท) ในไตรมาสที่ 4 โดยเฉพาะในเดือนพฤศจิกายน รายได้แตะระดับสูงสุดต่อเดือนที่ 367 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 53,210 ล้านบาท)

ปัจจัยหลักที่ทำให้รายได้พุ่งสูงขึ้นคือการเพิ่มขึ้นของ ‘มีกคอยน์’ อย่างรวดเร็ว เมสซารีระบุว่า "ในปี 2024 ระบบนิเวศ ดีไฟ(DeFi) ของโซลานาถูกขับเคลื่อนโดยกระแสเก็งกำไรมีกคอยน์" แพลตฟอร์มมีกคอยน์ชั้นนำอย่าง Pump.fun สร้างรายได้ 235 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 34,070 ล้านบาท) ในไตรมาสที่ 4 เติบโตขึ้นถึง 242% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า

นอกจากนี้ แพลตฟอร์มดีไฟ Photon ซึ่งเป็นเทอร์มินัลซื้อขาย และ เรเดียม(Raydium) ซึ่งเป็นกระดานซื้อขายแบบไร้ศูนย์กลาง(DEX) ก็มีรายได้ในไตรมาสที่ 4 อยู่ที่ 140 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 20,300 ล้านบาท) และ 74 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 10,730 ล้านบาท) ตามลำดับ โดยมีอัตราการเติบโตมากกว่า 250% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เมสซารีชี้ว่า แอปพลิเคชันเหล่านี้มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการเติบโตของการซื้อขายมีกคอยน์และโทเคนที่เกี่ยวข้องกับ AI

นอกเหนือจากมีกคอยน์ แอปพลิเคชันในด้านอื่น ๆ ก็มีการเติบโตเช่นกัน โดย Jito ซึ่งเป็นโปรโตคอล Block Builder สามารถสร้างรายได้ถึง 21 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3,040 ล้านบาท) ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับมีกคอยน์แต่สามารถทำรายได้สูงที่สุดในกลุ่มนี้

ขณะที่ปริมาณธุรกรรมเฉลี่ยรายวันบน DEX ภายในเครือข่ายของโซลานาในไตรมาสที่ 4 เพิ่มขึ้น 150% แตะระดับ 3.3 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4.78 ล้านล้านบาท) ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการค้าโทเคนกลุ่มมีกคอยน์และ AI โดยปัจจุบันมีกคอยน์มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 1,300 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 188,500 ล้านบาท) และโซลานาถือครองส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มโทเคน AI Agents ถึง 56.48%

ด้านซีอีโอของบิทเกต(Bitget) เกรซี เฉิน(Gracy Chen) ได้ให้ความเห็นว่า “โทเคนที่เกี่ยวข้องกับ AI อาจมีมูลค่าตลาดรวมเติบโตไปถึง 60,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 8.7 ล้านล้านบาท) ภายในปี 2025”

นอกจากนี้ มูลค่ารวมของทรัพย์สินที่ถูกล็อค (TVL) บนเครือข่ายโซลานายังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยมีมูลค่า 8.6 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 124,700 ล้านบาท) ในไตรมาสที่ 4 แม้ว่าจะยังน้อยกว่ามูลค่า TVL ของอีเธอเรียม(ETH) ซึ่งอยู่ที่ 57,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 826,500 ล้านบาท) แต่ก็ยังเป็นเครือข่ายที่มีมูลค่า TVL สูงเป็นอันดับสองในตลาดทั้งหมด