อีเธอเรียม(ETH) กำลังสร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ในตลาดคริปโต หลังมีการวิเคราะห์ว่า อาจกำลังเกิด ‘ชอร์ตสควิซ’ ครั้งประวัติศาสตร์ในระยะสั้น โดยราคาที่พุ่งแรงตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคมได้สร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับนักลงทุนสายชอร์ต และอาจนำไปสู่การถูกบังคับปิดสถานะเพิ่มเติมคิดเป็นมูลค่าราว 1 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.39 หมื่นล้านบาท หาก ETH ปรับตัวขึ้นอีกเพียง 10%
เมื่อวันที่ 12 ตามรายงานของสำนักวิเคราะห์ โคบิชิ เลตเตอร์(The Kobeissi Letter) ระบุว่า อีเธอเรียมกำลังเคลื่อนไหวในแนวทางที่ ‘หายากมากในประวัติศาสตร์คริปโต’ และมีแนวโน้มที่ราคา ETH/USD จะพุ่งแตะ 4,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 155,600 บาท ได้ในเร็วๆ นี้ จุดสังเกตสำคัญคือ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม มูลค่าตลาดของ ETH เพิ่มขึ้นกว่า 1.5 แสนล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 208.5 ล้านล้านบาท สะท้อนถึงแรงหนุนที่ตามมาหลังการสะสมสถานะชอร์ตมหาศาล
การดีดตัวของราคาบิตคอยน์(BTC) ช่วงที่ผ่านมา ยังผลักดันให้อีเธอเรียมและเหรียญอัลท์คอยน์หลักอื่นๆ โลดแล่นตามไปด้วย โดย ETH ถูกมองว่าเป็นตัวแทนนำขบวน และสร้างอิทธิพลสำคัญต่อจิตวิทยาการลงทุน โคบิชิ เลตเตอร์ เสริมว่า “หากแนวโน้มปัจจุบันยังยืนระยะได้ อาจสะท้อนถึงระดับราคาสูงสุดในปี 2025 ของ ETH ล่วงหน้า” ซึ่งถือเป็น *ความคิดเห็น* ที่ช่วยจุดประกายความหวังในตลาด
จากการวิเคราะห์เชิงเทคนิคและข้อมูลสถานะฟิวเจอร์สในปัจจุบัน บรรดานักวิเคราะห์มองว่า ETH ยังมีความสามารถในการไต่ระดับแตะ 4,000 ดอลลาร์ได้ในช่วงสั้น โดยสถานะชอร์ตที่สะสมในรอบนี้ กำลังกลายเป็นพลังผลักดันราคาจากการบังคับปิดโพซิชันอย่างต่อเนื่อง
เหตุการณ์นี้อาจไม่ใช่แค่ ‘การดีดตัวระยะสั้น’ แต่เป็นสัญญาณเริ่มต้นของ ‘การกลับมาอีกครั้งของแนวโน้มตลาดกระทิง’ ที่ส่งผลถึงช่วงยาวของอีเธอเรียม ความสนใจจึงจับจ้องว่า ETH จะสามารถกลับมายึด *ความเป็นผู้นำตลาด* ได้อีกครั้งหรือไม่ ท่ามกลางกระแสที่นักลงทุนเริ่มฟื้นความเชื่อมั่นในตลาดคริปโตในวงกว้าง
ความคิดเห็น 0