รัฐบาลสหรัฐฯ ผ่อนกฎคริปโตเต็มรูปแบบ ลุยดึงบริษัทชั้นนำกลับตั้งฐานในประเทศอีกครั้ง

สหรัฐฯ เดินหน้าผ่อนคลายท่าทีด้านกฎระเบียบต่ออุตสาหกรรมคริปโตอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้บริษัทคริปโตชั้นนำระดับโลกเริ่มพิจารณาหวนกลับมาจัดตั้งหรือขยายธุรกิจในสหรัฐฯ อีกครั้ง โดยรัฐบาลของประธานาธิบดีทรัมป์เริ่มดำเนินยุทธศาสตร์เพื่อผลักดันภาพลักษณ์ของประเทศให้กลายเป็น ‘ศูนย์กลางสินทรัพย์ดิจิทัล’ พร้อมผลักดันให้บริษัทที่เคยย้ายฐานออกนอกประเทศกลับมา (‘reshoring’) ผ่านมาตรการและการสนับสนุนในระดับนโยบาย

เมื่อวันที่ 11 (เวลาท้องถิ่น) พอล แอตกินส์(Paul Atkins) กรรมาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ(SEC) กล่าวในเวที ‘สถาบันนโยบายอเมริกาเฟิร์สต์’ ว่า *“เราต้องเชิญชวนให้บริษัทคริปโตที่เคยย้ายออกไปกลับคืนสู่สหรัฐฯ”* โดยเรียกร้องให้มีการสนับสนุนการ ‘reshoring’ บริษัทคริปโตภายในประเทศ สอดรับกับทิศทางนโยบายของรัฐบาลทรัมป์ที่มุ่งผ่อนคลายข้อจำกัดและขจัดความไม่แน่นอนทางกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อภาคเอกชน

ในทิศทางเดียวกัน สกอตต์ เบสเซนต์(Scott Bessent) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ได้โพสต์ผ่านแพลตฟอร์ม X โดยประกาศว่า *“สหรัฐฯ ได้เข้าสู่ยุคทองของคริปโตแล้ว”* พร้อมเชิญชวนผู้ก่อตั้งและนักพัฒนาคริปโตให้มาเริ่มต้นธุรกิจ สร้างโปรโตคอล และจ้างบุคลากรในประเทศโดยตรง ความเคลื่อนไหวนี้ถูกตีความว่าเป็นสัญญาณบวกต่อบรรดาสตาร์ทอัพและทีมพัฒนาที่เคยลังเลใจจากความเสี่ยงด้านกฎเกณฑ์

ภายใต้นโยบายที่ชัดเจนมากขึ้นของรัฐบาลสหรัฐฯ และแรงสนับสนุนในระดับผู้นำ นักวิเคราะห์มองว่า ภาคธุรกิจคริปโตเริ่มแสดง ‘ปฏิกิริยาเชิงบวก’ หลายบริษัทเริ่มย้ายสำนักงานใหญ่กลับเข้าสหรัฐฯ หรือเร่งขยายกิจการในประเทศ ตัวอย่างเช่น *“คราเคน(Kraken)”* และ *“มูนเพย์(MoonPay)”* ซึ่งอยู่ระหว่างการเร่งขยายการดำเนินงานในสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง

*ความคิดเห็น*: ท่าทีของสหรัฐฯ ที่เริ่มเดินหน้าเปลี่ยนจากการควบคุมเข้มข้นมาสู่การสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรกับนวัตกรรมคริปโต ดูจะเป็นกลยุทธ์เพื่อช่วงชิงตำแหน่ง ‘ผู้นำสินทรัพย์ดิจิทัล’ จากประเทศอื่น หลังจากตลาดโลกเริ่มชะลอตัวและเข้าสู่ภาวะเสี่ยง ทั้งนี้ ขั้นตอนสุดท้ายของการจัดระเบียบกฎหมายในประเทศ กำลังกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่จะกำหนดทิศทางในระยะยาวของอุตสาหกรรมคริปโตในสหรัฐฯ