บิตคอยน์(BTC) กำลังพยายามรักษาระดับแนวรับที่ *112,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 15.56 ล้านบาท)* ท่ามกลางแรงขายที่กดดันอย่างรุนแรง ทำให้แนวโน้มของตลาดกระทิงกลับมาอยู่ในจุดเปลี่ยน ปัจจุบัน ราคาซื้อขายอยู่แถว *115,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 15.98 ล้านบาท)* แม้จะมีการฟื้นตัวในระยะสั้น แต่แรงขายยังคงต่อเนื่องที่ระดับสูงของราคา ซึ่งสะท้อนว่าตลาดคริปโตทั้งหมดกำลังสูญเสียแรงขับเคลื่อนในระยะสั้น
อาเธอร์ เฮย์ส(Arthur Hayes) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ Maelstrom Fund แสดง ‘ความเห็น’ ผ่านบัญชี X (เดิมคือทวิตเตอร์) ว่า ความชะลอตัวของตลาดสินเชื่อและการเติบโตของการจ้างงานที่หยุดนิ่งอาจทำให้ราคาบิตคอยน์ร่วงลงสู่ *100,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 13.9 ล้านบาท)* ขณะเดียวกัน เขายังคาดว่า อีเธอเรียม(ETH) อาจปรับลดลงจนเหลือ *3,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 417,000 บาท)* โดยมองว่า ‘ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจมหภาค’ ยังเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อสินทรัพย์ดิจิทัล
แนวโน้มการลงทุนก็สะท้อนทิศทางดังกล่าว ข้อมูลจาก SoSoValue ระบุว่า กองทุน ETF บิตคอยน์แบบสปอตในสหรัฐเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา มีเงินทุนไหลออกสุทธิรวม *812.25 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.13 หมื่นล้านบาท)* ซึ่งแสดงถึง ‘ความกลัวความเสี่ยง’ ของนักลงทุน นอกจากนี้ อีเธอเรียม ETF ยังมียอดเงินไหลออก *152.26 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.1 พันล้านบาท)* ถือเป็นการสิ้นสุดแนวโน้มเงินไหลเข้าสะสมตลอดช่วง 20 วันที่ผ่านมา
กระแสไหลออกจาก ETF หลัก ๆ เช่นนี้ เป็น ‘สัญญาณ’ ว่าการปรับฐานราคาของบิตคอยน์และอัลท์คอยน์หลายสกุลอาจดำเนินต่อไปในระยะเวลาอันใกล้ โดยเฉพาะอัลท์คอยน์ที่ปรับตัวขึ้นแรงในช่วงหลังต่างประสบกับภาวะแกว่งตัวลงอย่างมาก หลายฝ่ายชี้ว่า ตลาดยังขาด ‘ปัจจัยสนับสนุน’ ที่มากพอจะทำให้เกิดการกลับตัวของแนวโน้ม สะท้อนว่าการฟื้นตัวรอบถัดไปอาจต้องใช้เวลาในการปรับฐานและสะสมโมเมนตัมมากยิ่งขึ้น
ความคิดเห็น 0