ดอจคอยน์(DOGE) พุ่งทวนกระแสตลาด หลังพบสัญญาณซื้อ-คาดโอกาสอนุมัติ ETF สูงถึง 90%

ดอจคอยน์(DOGE) กลับมาสร้างกระแสในตลาดคริปโตอีกครั้ง หลังพบ ‘สัญญาณกลับตัว’ ที่นักวิเคราะห์มองว่าอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ แม้ตลาดโดยรวมเผชิญการปรับฐานอย่างหนัก โดยเฉพาะในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ตลาดคริปโตมีมูลค่าการชำระบัญชีรวมกว่า 214 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2,974 ล้านบาท ตามข้อมูลจาก CoinGlass ซึ่งส่วนมากเป็นการ ‘ชำระบัญชีสถานะ Long’ อย่างไรก็ตาม ดอจคอยน์กลับสามารถรักษาทิศทางบวกไว้ได้

นักวิเคราะห์คริปโตชื่อ อาลี(Ali) ชี้ว่า อินดิเคเตอร์ทางเทคนิคชื่อ TD Sequential ซึ่งเคยแม่นยำในการจับจุดสูงสุดของราคามาแล้วหลายครั้ง ได้ส่ง ‘สัญญาณซื้อ’ สำหรับดอจคอยน์ในรอบนี้ เขามองว่าสัญญาณนี้บ่งชี้ถึงภาวะ ‘ขายเกิน’ ที่อาจสิ้นสุดลง และตลาดมีแนวโน้มเข้าสู่ช่วงรีบาวด์ที่ชัดเจน โดยปัจจุบัน ราคาดอจคอยน์ขยับขึ้นจากเดิมราว 0.2% อยู่ที่ระดับ 0.216 ดอลลาร์

นอกจากแรงส่งจากเทคนิคแล้ว ความหวังเรื่อง ‘การอนุมัติ ETF ของดอจคอยน์’ ก็เป็นอีกปัจจัยกระตุ้นความเชื่อมั่น โดยบริษัทจัดการ ETF ของสหรัฐฯ อย่าง REX Shares เปิดเผยว่าสินค้าทางการเงินอย่าง ‘REX-Osprey DOGE ETF(DOJE)’ มีโอกาสได้รับอนุมัติสูงถึง 90% ซึ่งจะเปิดทางให้นักลงทุนเข้าถึงดอจคอยน์ผ่านกองทุนได้โดยไม่ต้องถือเหรียญโดยตรง ถือเป็นพัฒนาการที่น่าจับตาสำหรับการสถาบันการลงทุนในสินทรัพย์มีม

ในขณะเดียวกัน House of Doge องค์กรเชิงพาณิชย์ในเครือมูลนิธิดอจคอยน์ ก็ประกาศความร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีทำความสะอาด CleanCore Solutions จากสหรัฐ เพื่อสร้าง ‘กองทุนทรัสต์ดอจคอยน์’ มูลค่ากว่า 175 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 2,433 ล้านบาท ถือเป็นการเดินหมากเชิงกลยุทธ์เพื่อสนับสนุนระบบนิเวศของดอจคอยน์ในระยะยาว โดยโครงการนี้ยังได้รับความสนใจเป็นพิเศษหลังจาก อเล็กซ์ สปิโร ทนายส่วนตัวของอีลอน มัสก์(Elon Musk) เข้าดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหารอีกด้วย

ขณะที่ฝั่งผู้จัดการสินทรัพย์ระดับโลกอย่าง Grayscale ก็เริ่มเคลื่อนไหว โดยออกมาเน้นย้ำถึงข้อดีของโครงสร้าง ‘การลงทุนในดอจคอยน์แบบไม่ต้องถือโดยตรง’ ผ่านกองทุนทรัสต์ของตน และยังอยู่ระหว่างการรอพิจารณาการอนุมัติจากสำนักงาน ก.ล.ต. สหรัฐ(SEC) เช่นกัน

ด้วยแรงส่งทั้งจากสัญญาณทางเทคนิคและความเคลื่อนไหวจากสถาบันต่างๆ ที่แสดงความเชื่อมั่นในดอจคอยน์ จึงมีความเป็นไปได้ว่า ทิศทางราคาที่เปลี่ยนแปลงในช่วงนี้ อาจเป็นมากกว่าการรีบาวด์ระยะสั้น แต่สะท้อนถึงโอกาสในการเข้าสู่แนวโน้มเติบโตระยะกลางถึงยาว ความเคลื่อนไหวครั้งนี้จึงอาจเป็น ‘จุดเปลี่ยนที่สำคัญ’ ของดอจคอยน์ในตลาดคริปโตอีกครั้ง.