ดอจคอยน์(DOGE) กำลังเข้าสู่ช่วงปรับฐานหลังมีสัญญาณทางเทคนิคในแนวโน้มขาลง โดยนักวิเคราะห์ชี้ว่า หากราคาสามารถทะลุแนวต้านที่ระดับ 0.23 ดอลลาร์ (ราว 320 บาท) ได้ อาจเปิดโอกาสให้เกิดการดีดตัวในระยะสั้น แม้แรงซื้อในตอนนี้จะเริ่มชะลอลง แต่ ‘ตัวชี้วัดทางเทคนิค’ หลายตัวก็ส่งสัญญาณว่า ดอจคอยน์อาจกำลังเข้าใกล้ช่วงเปลี่ยนแนวโน้ม
เทรดเดอร์ชื่อว่า *เทรดเดอร์ ทาร์ดิเกรด(Trader Tardigrade)* เปิดเผยเมื่อวันที่ 31 ผ่านการวิเคราะห์ *อิชิโมกุ คินโค ฮิว* ซึ่งพบสัญญาณ ‘ขาลง’ ที่ชัดเจน โดยเส้นเทนคันเซนและคิยุนเซนเกิดการตัดกัน ซึ่งเป็นสัญญาณขายที่พบได้ทั่วไปบนกราฟรายวันของดอจคอยน์ อีกทั้งราคายังมีการเคลื่อนไหวลดลงบริเวณขอบบนของกลุ่มเมฆ (Kumo) โดยล่าสุดอยู่ที่ 0.21 ดอลลาร์ (ประมาณ 292 บาท) ลดลง 3% ใน 24 ชั่วโมง และ 6% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน
ระดับแนวรับและแนวต้านที่สำคัญในขณะนี้คือ 0.215 ดอลลาร์ (299 บาท), 0.221 ดอลลาร์ (308 บาท) และ 0.224 ดอลลาร์ (311 บาท) ตามลำดับ ปัจจุบันราคายังเคลื่อนตัวอยู่ภายในกลุ่มเมฆ ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงช่วง ‘พักตัวในแนวราบ’ มากกว่าการปรับฐานลงอย่างรุนแรง ทาร์ดิเกรดกล่าวเพิ่มเติมว่า การตัดกันระหว่างเส้นเทนคันเซนและคิยุนเซนสื่อถึง ‘สัญญาณขายระยะสั้น’ แต่ทิศทางยังไม่ชัดเจน
ในส่วนของภาพระยะยาว ยังคงไม่พบสัญญาณที่ชัดเจนว่าดอจคอยน์ได้เริ่มรอบขาขึ้นใหม่ โดยในกราฟรายเดือน ตัวชี้วัด ROC (Rate of Change) ที่เคยแสดงการพุ่งขึ้นก่อนช่วงกระทิงในปี 2017 และ 2021 กลับแสดงกราฟระนาบในปัจจุบัน แสดงถึงแรงขับเคลื่อนยังไม่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน ทาร์ดิเกรดระบุว่า “ตอนนี้ยังไม่มีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดครองตลาด และช่วงการพุ่งขึ้นครั้งถัดไปก็ยังไม่เริ่มขึ้น”
ด้านนักวิเคราะห์อีกคน อย่าง *อาลี มาร์ติเนซ(Ali Martinez)* เผยว่า ตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม ดอจคอยน์ได้เคลื่อนไหวเป็นรูปแบบ *สามเหลี่ยมสมมาตร* บนกราฟ 4 ชั่วโมง ซึ่งเป็นสัญญาณใกล้ถึงจุด ‘เบรก’ และหากสามารถทะลุแนวต้านที่ 0.23 ดอลลาร์ (320 บาท) ได้ ก็อาจเห็นการทดสอบระดับแนวต้านถัดไปที่ 0.243 ดอลลาร์ (338 บาท), 0.259 ดอลลาร์ (360 บาท), 0.282 ดอลลาร์ (392 บาท) และ 0.314 ดอลลาร์ (437 บาท)
ในทางกลับกัน แนวรับที่ต้องจับตาคือ 0.221 ดอลลาร์ (308 บาท) และ 0.21 ดอลลาร์ (292 บาท) โดยมาร์ติเนซให้ความเห็นว่า “การทะลุระดับ 0.23 ดอลลาร์ได้ จะเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิด ‘รอบการพุ่งขึ้นแบบระยะสั้น’”
ขณะนี้ดอจคอยน์อยู่ในสถานะ ‘ชี้ขาดทิศทาง’ ระหว่างขาขึ้นหรือขาลง โดยทั้งสัญญาณเทคนิคและรูปแบบกราฟต่างแสดงให้เห็นว่า ราคากำลัง ‘อยู่ในช่วงใกล้การเปลี่ยนแนวโน้ม’ นักลงทุนควรจับตาความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะสัญญาณระยะสั้นจากตลาดในช่วงนี้
ความคิดเห็น 0