Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

อีเธอเรียม(ETH) พุ่ง 88% ขึ้นแท่นผู้นำคริปโต พร้อมรับบทหัวใจระบบการเงินใหม่

อีเธอเรียม(ETH) พุ่ง 88% ขึ้นแท่นผู้นำคริปโต พร้อมรับบทหัวใจระบบการเงินใหม่ / Tokenpost

อีเธอเรียม(ETH) กลายเป็นผู้นำในตลาดคริปโต หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง *88%* ภายในระยะเวลาเพียงสองเดือนล่าสุด ทิ้งห่างบิตคอยน์(BTC)และเหรียญหลักอื่น ๆ อย่างชัดเจน ปรากฏการณ์ครั้งนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับนักลงทุน โดยหลายฝ่ายมองว่าเป็นสัญญาณของ ‘ฤดูอัลท์คอยน์’ ที่กลับมาอีกครั้ง รวมถึงความคาดหวังต่อ*กองทุน ETF* และการขยายตัวของการถือครองอีเธอเรียมในพอร์ตการเงินขององค์กร อย่างไรก็ตาม บางเสียงวิเคราะห์ว่า แรงขับเคลื่อนที่แท้จริงมาจากการที่ *สถาบันการเงินเริ่มเข้ามายอมรับและใช้งานคริปโตอย่างจริงจัง* มากขึ้น

หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่อีเธอเรียมได้รับความสนใจจากโลกการเงินดั้งเดิมคือบทบาทของมันใน *สเตเบิลคอยน์* และ *การโทเคนสินทรัพย์จริง (RWA)* ซึ่งกำลังกลายเป็นแกนกลางของการปฏิวัติระบบการเงิน โดยเฉพาะเมื่อสหรัฐฯ กำลังพิจารณากฎหมายด้านคริปโตอย่าง *GENIUS* และ *CLARITY* ที่หากผ่านความเห็นชอบ อีเธอเรียมจะมีโอกาสฝังอยู่ในโครงสร้างการเงินภาครัฐได้ลึกขึ้นในอนาคต

ข้อมูลจาก DefiLlama ระบุว่า ตั้งแต่ต้นปี 2023 จนถึงปัจจุบัน มูลค่ารวมของสเตเบิลคอยน์เพิ่มขึ้นถึง *สองเท่า* แตะระดับ *280,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 389.2 ล้านล้านวอน)* ขณะที่แมคคินซี่คาดการณ์ว่าจะสูงถึง *400,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 556 ล้านล้านวอน)* ภายในสิ้นปีนี้ และอาจแตะ *2 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2,780 ล้านล้านวอน)* ภายในปี 2028 ความนิยมในสเตเบิลคอยน์ไม่ได้จำกัดแค่การเป็นคู่เทรดอีกต่อไป แต่เริ่มถูกใช้งานจริงในระบบการชำระเงินและการโอนเงินแบบเรียลไทม์ ซึ่งเริ่มเข้ามาแทรกซึมในระบบการเงินแบบดั้งเดิมอย่างรวดเร็ว

อีเธอเรียมยังคงเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญที่สุดในตลาดนี้ โดยข้อมูลจาก Dune Analytics ชี้ว่า *56.1% ของสเตเบิลคอยน์ทั้งหมด* ถูกสร้างบนเครือข่ายอีเธอเรียม ยิ่งสเตเบิลคอยน์ถูกใช้งานมากขึ้น ค่าธรรมเนียมที่ไหลเข้าสู่เครือข่ายก็จะมากขึ้น ส่งผลให้ *มูลค่าเครือข่ายของอีเธอเรียมเพิ่มขึ้นตามไปด้วย* อย่างมีนัยสำคัญ

ไม่เพียงเท่านั้น กระแสการเปลี่ยนสินทรัพย์จริงให้เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลบนเชน (RWA) ยังเร่งตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีผู้เล่นรายใหญ่อย่างแบล็คร็อก และแฟรงคลินเทมเปิลตันเข้ามามีบทบาทตั้งแต่ต้นปี 2023 ทำให้ขนาดตลาด RWA ขยายตัวถึง *413%* แตะระดับ *26.7 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 37.1 ล้านล้านวอน)* ซึ่งส่วนใหญ่อยู่บนโครงสร้างของอีเธอเรียม

พัฒนาการทั้งหมดนี้ ไม่ใช่กระแสลงทุนสั้น ๆ แต่สะท้อนถึงการเปลี่ยนผ่านเชิงโครงสร้างที่กำลังเกิดขึ้นในโลกการเงิน หาก *สหรัฐฯ* สามารถดำเนินการให้กฎหมายคริปโตมีความชัดเจนมากขึ้น พร้อม ๆ กับการที่ระบบการเงินดั้งเดิมและบล็อกเชนเริ่มบรรจบกัน อีเธอเรียมอาจไม่ใช่อัลท์คอยน์ธรรมดาอีกต่อไป แต่จะกลายเป็น *แพลตฟอร์มหลักของระบบการเงินยุคใหม่* ที่ผู้เล่นสถาบันระดับโลกต่างให้ความเชื่อถือ

นอกจากนี้ หาก *ทรัมป์* ได้รับเลือกตั้งและนำเสนอนโยบายที่เป็นมิตรต่อคริปโตมากขึ้น ทิศทางของรัฐบาลสหรัฐชุดใหม่อาจช่วยผลักดันยุทธศาสตร์การนำบล็อกเชนมาใช้ในวงกว้างยิ่งขึ้นไปอีก ความเป็นไปได้นี้ทำให้อีเธอเรียมถูกจับตามองมากขึ้นในฐานะหัวใจของโลกการเงินแห่งอนาคต

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1