วงการบริษัทร่วมลงทุน (VC) กำลังปรับมาตรฐานใหม่ในการเลือกลงทุนในโครงการด้านคริปโต โดยล่าสุดแสดงให้เห็นถึง ‘ท่าทีระมัดระวังและเข้มงวด’ กว่าช่วงก่อนหน้าอย่างเห็นได้ชัด ท่ามกลางบรรยากาศของตลาดที่เข้าสู่ช่วงแห่งการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ นักลงทุนเริ่มให้ความสำคัญกับ *โครงการที่สร้างรายได้จริง* แทนการทุ่มเงินกับโครงการที่ยังไม่มีโมเดลธุรกิจชัดเจนในช่วงแรกเริ่มเหมือนในอดีต
เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) CoinTelegraph รายงานคำให้สัมภาษณ์จาก เอวา โอเบอร์โฮลเซอร์(Eva Oberholzer) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของอัซนา แคปิทอล (Azna Capital) ซึ่งระบุว่า “ตลาดคริปโตในขณะนี้เปลี่ยนผ่านเข้าสู่เฟสใหม่ ทำให้การตัดสินใจลงทุนยากขึ้นกว่าเดิม” พร้อมเน้นย้ำว่าต้องมองหาโครงการที่สร้างมูลค่าอย่างแท้จริงมากกว่าการตามกระแส
โอเบอร์โฮลเซอร์เผยว่า หากเป็นเมื่อก่อน นักลงทุนยินดีลงทุนในโครงการช่วง *Pre-seed* ที่ยังไม่ผ่านการพิสูจน์โมเดลธุรกิจ แต่ปัจจุบัน เงินทุนจะมุ่งสู่โครงการที่มีโมเดลรายได้ที่ *คาดการณ์ได้*, มีการเชื่อมโยงกับ *โครงสร้างทางการเงินในระบบ*, และ *การใช้งานจริงในระดับกว้างที่ไม่อาจย้อนกลับ* ได้
นอกจากนี้ เธอยังชี้ว่าตลาดคริปโตเริ่มห่างไกลจากความนิยมชั่วคราว เช่นกระแสมีมคอยน์ และหันมาสนใจในโปรเจกต์ที่สร้างให้เกิดการ ‘ใช้งานจริง’ และ *ยั่งยืน* มากขึ้น โดยกรอบการลงทุนของสถาบันจะกลายเป็นส่วนสำคัญในการกำหนดแนวโน้มของอุตสาหกรรมนี้
กลยุทธ์ใหม่นี้ตัดขาดจาก *ภาวะเก็งกำไรในช่วงตลาดขาขึ้นของปี 2021* อย่างชัดเจน ปัจจุบันบริษัทคริปโตที่สามารถสร้างรายได้จริง หรือบริษัทที่พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับความต้องการจากภาคการเงินแบบดั้งเดิม กลายเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของ VC
ความคิดเห็น: การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่เพียงแค่สะท้อนพฤติกรรมของ VC เท่านั้น แต่ยังชี้ให้เห็นถึงการเข้าสู่ ‘ยุคใหม่’ ที่คริปโตจะต้องพิสูจน์ตัวเองในฐานะ *สินทรัพย์ที่สร้างมูลค่าระยะยาว*
บทสรุปของแนวโน้มนี้ คือการที่บรรดานักลงทุนสถาบันเริ่มเข้ามามีบทบาทในตลาดมากขึ้น ขณะที่แนวคิดเรื่อง *สินทรัพย์สร้างรายได้ดิจิทัล* และ *การบูรณาการเข้ากับระบบเศรษฐกิจจริง* จะกลายเป็นแก่นกลางของการลงทุนในอนาคตคริปโต โดยเน้นความมั่นคง ความยั่งยืน และความไว้วางใจที่สามารถขยายต่อได้ในระยะยาว
ความคิดเห็น 0