บิตคอยน์(BTC) เคลื่อนไหวอย่างผันผวนใกล้ระดับแนวรับสำคัญที่ 108,000 ดอลลาร์ หรือราว 15.01 ล้านบาท แม้ตลอดเดือนนี้จะเห็นแรงซื้อสะสมจากนักลงทุนที่มองว่าเป็น ‘จังหวะซื้อถูก’ แต่ปริมาณคำสั่งขายยังคงกดดันราคาลงต่อ โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดแรงงานของสหรัฐที่ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กปิดทำการ ซึ่งเพิ่ม ‘ความไม่แน่นอนให้กับตลาด’ มากยิ่งขึ้น จากความเป็นไปได้ที่ผู้ถือครองรายใหญ่จะขายเพิ่ม
นักวิเคราะห์ในตลาดเตือนว่า *แรงเทขายจากวาฬบิตคอยน์* กำลังส่งแรงกดดันราคาลงในระยะสั้น โดยมีรายงานว่าหนึ่งในนักลงทุนยุคแรกหรือ OG รายหนึ่งซึ่งไม่เปิดเผยชื่อได้ขายบิตคอยน์จำนวน 4,000 BTC คิดเป็นราว 556 ล้านบาท และหันไปซื้ออีเธอเรียม(ETH)จำนวนมากแทน ภายในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนรายนี้ได้เทขายรวม 32,000 BTC หรือประมาณ 4,451 ล้านบาท พร้อมใช้เงินดังกล่าวเข้าซื้ออีเธอเรียมมากกว่า 870,000 เหรียญ รวมเป็นมูลค่าประมาณ 5.28 หมื่นล้านบาท เปลี่ยนพอร์ตการลงทุนหลักไปสู่ ETH อย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม เขายังคงถือครองบิตคอยน์มากกว่า 50,000 BTC ซึ่งคิดเป็นมูลค่าราว 6,946 ล้านบาท และมี *ความเป็นไปได้สูงว่าจะถูกขายออกมาเพิ่มเติม* ในเร็วๆนี้ นักวิเคราะห์บางรายจึงเตือนว่า บิตคอยน์อาจหลุดแนวรับสำคัญที่ 105,000 ดอลลาร์ หรือราว 14.59 ล้านบาท หากแรงขายยังคงต่อเนื่อง
ขณะที่บรรยากาศโดยรวมในหมู่นักลงทุนเริ่มเปลี่ยนเป็น ‘รอดูท่าที’ มากขึ้น และแม้ความคาดหวังต่อทิศทางนโยบายที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัลจากการชนะเลือกตั้งอีกครั้งของ *ประธานาธิบดีทรัมป์* อาจช่วยเสริมบรรยากาศในตลาดในภาพรวม แต่ในระยะสั้น ความกังวลเรื่องแรงขายจากวาฬและความตึงตัวด้านสภาพคล่องยังมีน้ำหนักมากกว่า
ผู้เชี่ยวชาญบางรายให้ *ความคิดเห็น* ว่า แม้การเคลื่อนไหวครั้งนี้อาจกดดันราคาในระยะสั้น แต่ก็สะท้อนถึงการเปลี่ยนผังอำนาจในตลาดคริปโต โดยแสดงสัญญาณของการเปลี่ยนศูนย์กลางจาก ‘บิตคอยน์’ ไปยัง ‘อีเธอเรียม’ ทว่าการจะเข้าสู่ภาวะ ‘ตลาดกระทิง’ อย่างจริงจังนั้น จำเป็นต้องมีการดูดซับแรงขายให้หมดเสียก่อน และต้องมี *การเข้าซื้อจากนักลงทุนหน้าใหม่* อย่างชัดเจนเพื่อเสริมแรงบวกในระยะถัดไป
ความคิดเห็น 0