Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

นักขุดบิตคอยน์(BTC) เปลี่ยนกลยุทธ์เน้นสะสม ดันแนวโน้มระยะยาวสู่ 150,000 ดอลลาร์

นักขุดบิตคอยน์(BTC) เปลี่ยนกลยุทธ์เน้นสะสม ดันแนวโน้มระยะยาวสู่ 150,000 ดอลลาร์ / Tokenpost

นักขุดบิตคอยน์(BTC) กำลังเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์การขายอย่างชัดเจนจากรอบตลาดก่อนหน้า โดยจากเดิมที่พวกเขาจะขายสินทรัพย์ทุกครั้งที่ตลาดพุ่ง กลับกลายเป็นว่ารอบนี้เน้น ‘การสะสม’ แทน ‘การขาย’ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างภายในระบบนิเวศของบิตคอยน์เอง

บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลออนเชน คริปโตควอนต์(CryptoQuant) ระบุว่า โดยปกติแล้วนักขุดมักจะขายบิตคอยน์ก่อนหรือหลังการ ‘ลดรางวัลครึ่งหนึ่ง’ หรือในช่วงปลายของตลาดกระทิงที่ราคาสูงสุด อย่างไรก็ตาม ในรอบนี้ดัชนีสถานะของนักขุด(Miner Position Index: MPI) ไม่แสดงสัญญาณของแรงขายที่รุนแรง แม้จะมีแรงขายบางส่วนแต่ไม่พบการ ‘เทขายครั้งใหญ่’ แต่อย่างใด

คริปโตควอนต์ชี้ว่าการเปลี่ยนแปลงนี้มีปัจจัยมาจากการที่ *สหรัฐอเมริกาอนุมัติ ETF บิตคอยน์แบบสปอต* และ *จำนวนประเทศที่ประกาศนำบิตคอยน์เป็นสินทรัพย์สำรองเพิ่มขึ้น* ซึ่งช่วยเสริมความมั่นใจว่านักขุดจำนวนมากกำลังวางกลยุทธ์ระยะยาวมากขึ้น และเลือกที่จะ *ถือครอง* มากกว่าขายทิ้งในระยะสั้น

นักขุดยังต้องเผชิญกับ *ความยากในการขุดที่เพิ่มขึ้น* โดยล่าสุดเครือข่ายของบิตคอยน์มีค่าความยากในการขุดแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งนักวิเคราะห์เรียกช่วงนี้ว่า “Banana Zone” — สะท้อนถึงการแข่งขันที่ดุเดือดของนักขุดในการเข้าร่วมเครือข่าย

ด้านค่าธรรมเนียมเหรียญ ก็มีสัญญาณที่น่าสนใจอย่างมาก โดยในตลาดรอบก่อนหน้า เมื่อค่าธรรมเนียมเร่งตัวสูงขึ้น ก็มักเป็นสัญญาณว่า ‘ภาวะร้อนแรง’ กำลังเกิดขึ้นตามมาด้วยราคาที่ร่วงลง แต่ในรอบนี้ ราคากลับ *ค่อย ๆ ปรับขึ้นอย่างมั่นคง* ต่อเนื่องแม้ค่าธรรมเนียมจะแพงขึ้น สะท้อนถึง 'เสถียรภาพ' ที่มากกว่าในอดีต

ภาพรวมจากพฤติกรรมของนักขุดชี้ให้เห็นว่าตลาดบิตคอยน์ในรอบนี้ กำลังถูกผลักดันโดย *กลุ่มนักลงทุนสถาบันและภาครัฐ* มากกว่าการเก็งกำไรแบบที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการเพิ่มน้ำหนักให้แนวโน้มเชิงบวกในระยะกลางถึงยาว

โจอัง เวดสัน(Joao Wedson) นักวิเคราะห์คริปโตกล่าวว่า แม้ปีนี้ผลตอบแทนของบิตคอยน์จะยังไม่สูงเท่าค่าเฉลี่ยในอดีต แต่ก็ยังดีกว่าภาพรวมในช่วงปีที่เกิดภาวะตลาดหมีอย่าง 2014, 2018 และ 2022 โดยเฉพาะในเดือนกันยายน ราคาบิตคอยน์ยังทำผลงานได้ดีกว่าค่าเฉลี่ย และอยู่ในกลุ่มผลตอบแทนสูงสุดของรอบหลายปีที่ผ่านมาเช่น 2012, 2015 และ 2016

มีนักวิเคราะห์บางรายเพิ่มเติมว่า กราฟเทคนิคของบิตคอยน์ได้ *เสร็จสิ้นรูปแบบ ‘Head and Shoulder กลับด้าน’* ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงจุดเริ่มต้นของ 'ซูเปอร์ไซเคิล' รอบใหม่ โดยประเมินว่าบิตคอยน์อาจมีแนวโน้ม *ไปแตะระดับ 150,000 ดอลลาร์* (ประมาณ 2.08 ล้านบาท) ซึ่งไม่ใช่เป้าหมายเพ้อฝันแต่เป็น ‘แนวโน้มเทคนิคที่เกิดจากโครงสร้างตลาด’

การที่นักขุดบิตคอยน์ไม่มุ่งเน้นการขายทำกำไรในระยะสั้นอีกต่อไป แต่เลือกเดิมพันกับโอกาสการเติบโตในระยะยาว ถือเป็นสัญญาณสำคัญที่นักลงทุนควรจับตา เพราะพฤติกรรมนี้ไม่ใช่เพียงแค่ ‘การสะสม’ แต่ยังกลายเป็น *หนึ่งในรากฐานสำคัญของตลาดบิตคอยน์ในปัจจุบัน*

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1