โซลานา(SOL) ปรับตัวขึ้นเกือบ 30% ภายในหนึ่งเดือนที่ผ่านมา พร้อมพุ่งเป้ากลับสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่เคยทำไว้เมื่อต้นปี ท่ามกลางกระแสขาขึ้นที่ชัดเจน แมตต์ เฮอร์แกน(Matt Hougan) ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนของบริษัทจัดการสินทรัพย์ระดับโลก บิทไวส์(Bitwise) มองว่าตลาดอาจเข้าสู่ช่วงการปรับตัวขึ้นในช่วงปลายปี พร้อมชี้ว่า "โซลานาอาจกำลังเดินตามรอยบิตคอยน์(BTC)และอีเธอเรียม(ETH)" ที่ได้แสดงให้เห็นรูปแบบการพุ่งแรงมาแล้วก่อนหน้า
จากรายงานล่าสุดของเฮอร์แกน เขาอธิบายว่าตลอด 18 เดือนที่ผ่านมา ความต้องการจาก ETF และเงินทุนสำรองของบริษัทมีมากกว่าปริมาณการออกเหรียญใหม่ในตลาดอย่างชัดเจน ส่งผลให้เกิด ‘ภาวะอุปสงค์เกินอุปทาน’ ที่รุนแรง ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ผลักดันราคาบิตคอยน์ขึ้นจากระดับ 40,000 ดอลลาร์เมื่อต้นปี มาสู่ระดับ 115,000 ดอลลาร์ในปัจจุบัน ส่วนอีเธอเรียมเองก็เพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าหลังสถาบันเร่งเข้าซื้อ เขาจึงเชื่อว่า "ถึงเวลาแล้วที่โซลานาจะได้รับอานิสงส์นั้น"
ตลาดยังจับตามองอย่างใกล้ชิดว่าหลายสถาบันการเงินกำลังผลักดันผลิตภัณฑ์การลงทุนในรูปแบบ ETP ที่มีโซลานาเป็นสินทรัพย์อ้างอิง โดยปัจจุบัน บิทไวส์, เกรย์สเกล, แวนเอ็ค, แฟรงคลิน เทมเพิลตัน, ฟิเดลิตี้ และกลุ่มอินเวสโก/กาแล็กซี ได้ยื่นคำขอไปยังสำนักงาน ก.ล.ต. สหรัฐ(SEC) แล้ว โดยการตัดสินใจอนุมัติคาดว่าจะมีขึ้นในวันที่ 10 ตุลาคมนี้ หากได้รับไฟเขียว ตลาดอาจได้เห็นผลิตภัณฑ์ ETP พื้นฐาน SOL หลายตัวเปิดตัวพร้อมกันในไตรมาส 4 และนี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของกระแสเงินทุนจากสถาบันที่หลั่งไหลเข้าสู่โซลานา
ไม่เพียงเฉพาะในรูปแบบผลิตภัณฑ์การเงิน แต่การลงทุนโดยตรงก็เริ่มชัดเจนขึ้นเช่นกัน โดยบริษัทชั้นนำอย่าง กาแล็กซี ดิจิทัล, จัมป์ คริปโต และ มัลติเคอยน์ แคปิตอล ได้ทุ่มเงินรวม 1,650 ล้านดอลลาร์ (ราว 2.29 แสนล้านวอน) ในสตาร์ทอัพใหม่ชื่อว่า ฟอร์เวิร์ด อินดัสทรีส์ (Forward Industries) ซึ่งจะทำหน้าที่เป็น ‘คลังเก็บ’ โซลานาผ่านกลไกการซื้อและสเตกเพื่อสร้างรายได้ ที่น่าสนใจคือ ไคล์ ซามานี(Kyle Samani) ผู้ร่วมก่อตั้งมัลติเคอยน์และเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ของโซลานา จะดำรงตำแหน่งประธานบริษัทใหม่แห่งนี้ ซึ่งบทบาทของเขาถูกเปรียบเปรยว่าเหมือนกับ ไมเคิล เซย์เลอร์ ในฝั่งบิตคอยน์ และ ทอม ลี ในฝั่งอีเธอเรียม
ในด้านเทคนิค โซลานาโดดเด่นด้วยความเร็วในการประมวลผลที่สูงและค่าธรรมเนียมที่ต่ำ ล่าสุด ระบบได้ถูกปรับปรุงให้ยืนยันธุรกรรมได้เร็วขึ้น จาก 12 วินาที เหลือเพียง 150 มิลลิวินาที โดยไม่ต้องพึ่งพาเลเยอร์ 2 และรองรับการประมวลผลหลายพันรายการต่อวินาที ซึ่งข้อดีทั้งหมดนี้ทำให้โซลานาเริ่มถูกขนานนามว่าเป็นหนึ่งในบล็อกเชนที่มีโครงสร้างประสิทธิภาพสูงที่สุดในตลาด
แม้บางฝ่ายจะแสดงความกังวลด้าน ‘ความเสี่ยงการรวมศูนย์’ แต่เฮอร์แกนกลับมองในแง่ของ ‘สภาพคล่องของสินทรัพย์’ โดยอ้างอิงข้อมูลว่า โซลานาติดอันดับ 3 ของสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงที่สุดเมื่อวัดจากมูลค่าในสเตเบิลคอยน์ และอยู่อันดับ 4 หากวัดด้วยการโทเคนไนซ์สินทรัพย์ ซึ่งเติบโตขึ้น 140% เฉพาะในปีนี้
โซลานาปัจจุบันมีมูลค่าตลาดประมาณ 116,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 161 ล้านล้านวอน) คิดเป็นเพียง 1 ใน 20 ของบิตคอยน์ ซึ่ง ‘ความเล็ก’ นี้หมายความว่า ‘การไหลเข้าของเงินทุนเพียงเล็กน้อย’ ก็อาจมีนัยสำคัญต่อราคาของโซลานา ยกตัวอย่างเงินลงทุน 1,650 ล้านดอลลาร์จากฟอร์เวิร์ด อินดัสทรีส์ หากแปลงเป็นอิทธิพลต่อบิตคอยน์ จะเทียบเท่ากับการลงทุนราว 33,000 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 1 ล้านล้านบาท
แม้โซลานาจะมีอัตราเงินเฟ้อที่ 4.3% ซึ่งถือว่าสูงกว่าทั้งบิตคอยน์และอีเธอเรียม แต่เฮอร์แกนชี้ว่าความต้องการในตลาดที่พุ่งทะลุซัพพลาย ก็สามารถลบข้อเสียนี้ได้อย่างสิ้นเชิง พร้อมสรุปว่า "สภาวะสำหรับการเข้าซื้อโซลานาในขณะนี้ มีความน่าดึงดูดในระดับที่ยากจะมองข้าม"
ความคิดเห็น 0