ชิบะอินุ(SHIB) เดินหน้าอัปเดตการเชื่อมต่อ *ชิบะเรียม(Shibarium)* กับเครือข่าย *CCIP (Cross-Chain Interoperability Protocol)* ของเชนลิงก์(LINK) อย่างจริงจัง การอัปเดตครั้งนี้มีความสำคัญ เนื่องจากชิบะเรียมจะสามารถเชื่อมต่อโดยตรงกับบล็อกเชนหลักอย่าง อีเธอเรียม(ETH), โพลิกอน(MATIC), อาร์บิทรัม(ARB) และ เบส(Base) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งเป้าเชื่อมต่อกับบล็อกเชนมากกว่า 20 เครือข่าย ชิบะอินุจึงกำลังเติบโตสู่การเป็นแพลตฟอร์มแบบ ‘มัลติเชน’ อย่างแท้จริง
คาล ไดเรีย(Kaal Dhairya) นักพัฒนาหลักของชิบะอินุ เปิดเผยผ่านทวิตเตอร์เมื่อไม่นานนี้ว่า ชิบะเรียมที่ขับเคลื่อนด้วย CCIP จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันจันทร์นี้ แม้ก่อนหน้านี้จะพบอุปสรรคทางเทคนิคเล็กน้อย แต่ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อกำหนดการ เขายังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว
ขณะเดียวกัน ลูซี(Lucie) ทีมงานหลักของชิบะอินุกล่าวถึงการเตรียมเปิดตัว *ชิบะสวอป(ShibaSwap)* เวอร์ชันใหม่ที่รองรับคุณสมบัติมัลติเชน ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ข้ามเครือข่ายได้ ชิบะสวอปจะกลายเป็นฐานสำคัญในการดึงสภาพคล่องจากบล็อกเชนรายใหญ่ และปูทางสู่การรวมระบบของชิบะเรียมในอนาคต
CCIP ถือเป็นเทคโนโลยีสะพานบล็อกเชนชั้นนำของเชนลิงก์ ซึ่งช่วยให้การโอนสินทรัพย์ข้ามเครือข่ายเป็นไปได้อย่างสะดวกผ่านอินเทอร์เฟซเดียว นี่คือก้าวสำคัญที่ทำให้ชิบะเรียมมีโครงสร้างพื้นฐานในการรองรับการซื้อขายแบบไร้ศูนย์กลางข้ามบล็อกเชน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาเดียวกันก็เกิดเหตุโจมตีที่พุ่งเป้าไปที่บริดจ์ของชิบะเรียม โดยแฮกเกอร์ใช้กลยุทธ์แฟลชโลนเพื่อซื้อ *โบน(BONE)* จำนวน 4.6 ล้านโทเคน มูลค่าราว 75.54 ล้านบาท จากข้อมูลล่าสุดระบุว่า สินทรัพย์บางส่วนที่เป็นอีเธอเรียม(ETH) และชิบะอินุ(SHIB) ถูกแช่แข็งไว้ ส่วนที่เหลือถูกโอนเข้าสู่กระเป๋าเย็นแบบมัลติซิกเพื่อลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัย ฟิรม์ความปลอดภัย *เฮกเซนส์(Hexens)* และ *เป็กชิลด์(PeckShield)* อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ต้นเหตุของเหตุการณ์นี้
แม้ตลาดจะจับตามองความเสี่ยง แต่ *BONE ก็พุ่งขึ้น 43% ภายใน 24 ชั่วโมง หลังเหตุการณ์สิ้นสุด แตะระดับ 0.236 ดอลลาร์ (ประมาณ 330 บาท)* แสดงให้เห็นถึงกระแสความสนใจที่กลับคืนมาอย่างรวดเร็ว ทีมชิบะอินุเน้นย้ำว่าจะให้ ‘ความมั่นคงของระบบนิเวศ’ เป็นภารกิจหลัก พร้อมเดินหน้าปรับปรุงระบบเชื่อมต่อข้ามบล็อกเชนอย่างต่อเนื่อง
ความคิดเห็น 0