ชิบะอินุ(SHIB) แสดงให้เห็นถึงความเคลื่อนไหวที่น่าจับตามองหลังจากมีการถอนเหรียญออกจากกระดานแลกเปลี่ยนมากกว่า *2.6 พันล้านโทเคน* ภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยจากข้อมูลออนเชน การถอนในระดับนี้มักบ่งชี้ถึงแรงขายระยะสั้นที่ลดลง พร้อมทั้งแสดงให้เห็นว่านักลงทุนกำลังเตรียมถือระยะยาวหรือโอนสินทรัพย์ไปยังกระเป๋าเก็บรักษาแบบส่วนตัว
ขณะนี้ ชิบะอินุมีการซื้อขายอยู่ในช่วงราคา 0.0000120–0.0000125 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 0.017 บาท) พร้อมดีดตัวขึ้นโดยมีแนวต้านบริเวณ 0.0000133 ดอลลาร์ (ประมาณ 0.018 บาท) อีกทั้งยังสามารถทะลุเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะสั้นได้ และล่าสุดได้พุ่งผ่านเส้นค่าเฉลี่ย EMA 50 วัน เป็นสัญญาณบวกที่อาจสะท้อนการเข้าสู่ ‘แนวโน้มขาขึ้นระยะกลาง’ ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI) อยู่ที่ระดับ 59 ซึ่งยังไม่เข้าข่ายเขตซื้อเกิน ชี้ว่าเหรียญยังมีพื้นที่ให้ปรับตัวสูงขึ้นได้อีก
อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจคือ *ปริมาณเหรียญบนกระดานแลกเปลี่ยนลดลงอย่างคงที่* โดยลดลงจากระดับ 85 ล้านล้าน SHIB และ 8 ล้านล้าน SHIB ตามลำดับ แม้ว่าจะมีการไหลเข้าสุทธิจำนวนเล็กน้อย แต่ภาพรวมของการลดลงของเหรียญบนกระดานสื่อถึง *แรงกดดันด้านอุปทานที่เริ่มคลี่คลาย*
ในด้านกิจกรรมเครือข่ายก็เริ่มกลับมาคึกคักขึ้นเช่นกัน โดยในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาปริมาณธุรกรรมเพิ่มขึ้น 1.22% และพบว่ากระเป๋าวาฬ 10 อันดับแรกมีการย้ายเหรียญออกนอกกระดานมากถึง *2.5 พันล้าน SHIB* ซึ่งอาจบ่งชี้ว่านักลงทุนรายใหญ่บางรายเริ่มวางตำแหน่งใหม่เพื่อ *คาดการณ์การขึ้นของราคาชิบะอินุในระยะกลางถึงยาว*
หากแนวโน้มการถอนเหรียญนี้ยังคงดำเนินต่อและไม่มีแรงไหลเข้าจากฝั่งกระดานมาแทนที่ ราคาของชิบะอินุอาจได้รับแรงหนุนจากภาวะ *ขาดแคลนเหรียญในตลาด* ซึ่งจะช่วยผลักดันราคาให้พุ่งแรงขึ้น
เมื่อพิจารณาจากปัจจัยทางเทคนิค ราคาของ SHIB อาจกลับไปทดสอบแนวต้านสำคัญบริเวณ *0.0000140–0.0000150 ดอลลาร์* (ราว 0.019–0.021 บาท) ในอนาคตอันใกล้นี้ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรเฝ้าระวัง เพราะหากการถอนเหรียญกลับกลายเป็นการไหลเข้าสู่กระดาน ก็อาจเป็นสัญญาณของ *แรงขาย* ที่จะกลับมาอีกครั้ง
สรุปคือ การถอนเหรียญ *2.6 พันล้าน SHIB* ล่าสุดเป็นสัญญาณเชิงบวกที่หนุนให้ชิบะอินุกลับมาฟื้นตัว แต่หากพฤติกรรมของวาฬยังคงดำเนินไปในทิศทางเดิม ตลาดอาจอยู่ในช่วงเตรียมตัวสำหรับ *การปรับขึ้นรอบใหม่* อย่างไรก็ตาม แนวโน้มของการไหลเข้า-ออกจากกระดานแลกเปลี่ยนในไม่กี่วันข้างหน้าจะมีบทบาทสำคัญในการตัดสินว่าราคาจะยืนได้ต่อหรือไม่
ความคิดเห็น 0