การเสนอขายหุ้นครั้งแรก (IPO) ของบริษัทแลกเปลี่ยนคริปโตอย่าง เจมิไน(Gemini) ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากตลาด โดยมีคำสั่งซื้อจองล่วงหน้าเกินกว่าที่คาดไว้ถึง *20 เท่า* ก่อนถึงวันกำหนดเปิดตัวในวันศุกร์นี้ ตามรายงานเมื่อวันที่ 12 เจมิไนได้ตัดสินใจยุติการรับคำสั่งซื้อก่อนกำหนด ร่วมกับธนาคารผู้ออกหุ้น ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ถือว่า *ไม่ธรรมดา* ในตลาด IPO โดยมูลค่าการเสนอขายขั้นสุดท้ายถูกกำหนดไว้ที่ประมาณ 425 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 5,908 ล้านบาท
จากเดิมที่มีเป้าหมายระดมทุนอยู่ที่ 380 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 5,282 ล้านบาท เจมิไนได้ปรับเป้าหมายขึ้นเป็น 433 ล้านดอลลาร์ หรือราว 6,015 ล้านบาท และได้แก้ไขช่วงราคาเสนอขายหุ้นใหม่เป็นหุ้นละ 24–26 ดอลลาร์ (ประมาณ 33,000–36,000 บาท) จากช่วงราคาที่ตั้งไว้ก่อนหน้าที่ 17–19 ดอลลาร์ (ประมาณ 23,600–26,400 บาท) ซึ่งสะท้อนการตอบรับที่ร้อนแรงเกินคาดจากนักลงทุน
หนึ่งในนักลงทุนรายใหญ่ของเจมิไนครั้งนี้คือ แนสแด็ก(Nasdaq) ตลาดหลักทรัพย์เทคโนโลยีชื่อดัง ที่เตรียมเข้าลงทุนในหุ้นเจมิไนมูลค่า 50 ล้านดอลลาร์ หรือราว 695 ล้านบาท ภายใต้กรอบของ *ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์* ซึ่งเป็นสัญญาณชัดเจนว่า ความสนใจจากนักลงทุนสถาบันต่ออุตสาหกรรมคริปโตยังคงแข็งแกร่ง
ในวันเดียวกัน บริษัทฟินเทคในสายบล็อกเชนชื่อ ฟิกเกอร์ เทคโนโลยีส์(Figure Technologies) ที่เพิ่งเข้าตลาดหุ้นแนสแด็กเช่นกัน ก็เปิดตัวได้อย่างโดดเด่น โดยราคาหุ้นในวันแรกพุ่งขึ้นถึง 24.4% บ่งชี้อย่างชัดเจนว่า หุ้นของบริษัทในกลุ่มฟินเทคและคริปโตยังคงได้รับ *ความสนใจจากนักลงทุนอย่างสูง*
ความสำเร็จของการ IPO บริษัทเจมิไนครั้งนี้ สะท้อนถึงความคาดหวังในอนาคตของอุตสาหกรรมบล็อกเชนที่ยังคงแข็งแกร่ง นักลงทุนจำนวนมากให้ความสำคัญกับ *โอกาสในการเข้าสู่ระบบการเงินแบบดั้งเดิมและศักยภาพของเทคโนโลยีที่กำลังขยายตัว* ซึ่งความคิดเห็นนี้มีแนวโน้มจะส่งผลบวกต่อแผนการเปิด IPO ของบริษัทคริปโตอื่น ๆ ในอนาคตอีกด้วย
ความคิดเห็น 0