ราคาบิตคอยน์(BTC) แสดงความผันผวนอย่างรุนแรงทันทีหลังสหรัฐฯ ประกาศดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เมื่อวันที่ 24 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ก่อนการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ตัวเลข CPI ดังกล่าวได้รับความสนใจจากตลาดอย่างมาก เนื่องจากอาจส่งผลต่อการตัดสินใจด้านดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed)
สำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐฯ (BLS) รายงานว่า ดัชนี CPI ของเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 2.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่ง *ตรงกับตัวเลขคาดการณ์ของตลาด* อย่างไรก็ตาม CPI รายเดือนเพิ่มขึ้น 0.4% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 0.3% ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่รวมอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 3.1% เมื่อเทียบรายปี และ 0.3% เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่ง *อยู่ในระดับที่ตลาดคาดการณ์ไว้*
ตัวเลขนี้อาจมีผลโดยตรงต่อการตัดสินใจด้านดอกเบี้ยของ Fed โดยเฉพาะหลังคำปราศรัยล่าสุดของประธานเฟดอย่างเจอโรม พาวเวลล์(Jerome Powell) ที่เมืองแจ็กสันโฮล ซึ่งก่อให้เกิดการคาดเดาในหมู่นักลงทุนว่า พาวเวลล์อาจเริ่มตอบสนองต่อแรงกดดันจากประธานาธิบดีทรัมป์ในการลดดอกเบี้ย เนื่องจากจนถึงขณะนี้ Fed ยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเลยแม้จะเข้าสู่ปี 2025 แล้วก็ตาม
ตลาดกำลังจับตาการประชุมของ FOMC เดือนกันยายนเป็นพิเศษ เพราะอาจเป็นจุดเปลี่ยนของท่าทีในนโยบายการเงิน หลังข้อมูล CPI เผยแพร่ออกมา บิตคอยน์พุ่งทะลุ 114,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1,584.6 ล้านบาท ก่อนจะขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ *114,500 ดอลลาร์* แต่อย่างรวดเร็วจึงดิ่งลงราว 1,000 ดอลลาร์ กลับสู่ระดับเดิม แสดงให้เห็นถึงความไวต่อข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคของตลาดคริปโต
ความเคลื่อนไหวนี้ตอกย้ำว่า *นโยบายดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ยังคงเป็นตัวแปรหลัก* ที่กำหนดทิศทางของบิตคอยน์และตลาดคริปโตในระยะสั้นถึงกลาง ถึงแม้ตัวเลข CPI จะยังอยู่ในกรอบที่คาดไว้ แต่การตัดสินใจครั้งต่อไปของพาวเวลล์จะเป็นตัวกำหนด *ว่าบิตคอยน์จะสามารถสร้างโมเมนตัมขาขึ้นอีกครั้งได้หรือไม่*
ความคิดเห็น: นักลงทุนต่างเฝ้ารอท่าทีจาก Fed ที่จะประกาศอย่างเป็นทางการในสัปดาห์หน้า ซึ่งอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในทิศทางตลาดคริปโตทั่วโลก
ความคิดเห็น 0