เยเรมี ดาวินชี(Jeremie Davinci) นักลงทุนยุคแรกของบิตคอยน์(BTC) และอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ได้ออกมาเน้นย้ำเหตุผลหลักที่ทำให้เขายังเลือก *ถือครอง(HODL)* บิตคอยน์ต่อไป โดยชี้ให้เห็นถึงจุดแข็งของสกุลเงินดิจิทัลนี้อย่าง ‘ไม่สามารถพิมพ์เพิ่ม’ และ ‘ไม่สามารถควบคุมได้’ ซึ่งสะท้อนถึงความแตกต่างชัดเจนจากระบบการเงินที่ควบคุมโดยธนาคารกลางทั่วโลก
ในโพสต์ล่าสุดบนโซเชียลมีเดีย ดาวินชีเปิดเผยว่า “บิตคอยน์ไม่สามารถพิมพ์เพิ่ม, ไม่สามารถสร้างภาวะเงินเฟ้อ และรัฐบาลไม่สามารถควบคุมได้ นี่คือเหตุผลที่เราควรถือครองบิตคอยน์” พร้อมย้ำถึง ‘การกระจายอำนาจ’ และ ‘ความหายาก’ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ทำให้บิตคอยน์โดดเด่น โดยบิตคอยน์มี *เพดานการผลิตอยู่ที่ 21 ล้านเหรียญ* ทำให้โอกาสที่มูลค่าจะลดลงจากการเพิ่มอุปทานนั้นแทบไม่มี ต่างจากสกุลเงินที่ออกโดยรัฐบาลซึ่งสามารถเพิ่มปริมาณเงินได้ตลอดเวลา
เขายังยกตัวอย่างน่าสนใจเกี่ยวกับราคาของไอโฟนเพื่อชี้ให้เห็นถึง ‘พลังซื้อ’ ของบิตคอยน์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเปรียบเทียบว่าเมื่อ 10 ปีก่อนต้องใช้บิตคอยน์ 2.66 BTC ในการซื้อไอโฟนหนึ่งเครื่อง แต่ปัจจุบันเพียง 0.006 BTC ก็สามารถซื้อได้แล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นถึง *การเติบโตของมูลค่าบิตคอยน์ในระยะยาว* อย่างชัดเจน
มุมมองของดาวินชีไม่ได้หยุดอยู่แค่การสนับสนุนคริปโต แต่ยังสะท้อนมุมมองที่มองว่าบิตคอยน์คือ ‘ทองคำดิจิทัล’ ซึ่งสามารถเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในสภาวะเงินเฟ้อได้ โดยเขาเคยแนะนำมาตลอดว่าควรซื้อบิตคอยน์ไว้แม้เพียงแค่ 1 เหรียญ และวันนี้ผลลัพธ์จากการถือครองระยะยาวก็ชี้ให้เห็นอย่างเด่นชัด
ภายใต้ความผันผวนของตลาดที่ได้รับผลกระทบจาก AI, บิ๊กดาต้า และความไม่แน่นอนของนโยบายการเงินทั่วโลก บิตคอยน์กลับกลายเป็นตัวเลือกสำคัญในฐานะ *ทางเลือกใหม่ของอธิปไตยทางการเงิน(Financial Sovereignty)* คำพูดของดาวินชีครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่ปรัชญา แต่ยังเป็น *สัญญาณย้ำความแข็งแกร่งของพื้นฐานบิตคอยน์* ที่นำกลับมาสู่ความสนใจของชุมชนอีกครั้ง
ความคิดเห็น 0