บิตคอยน์(BTC) พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์อีกครั้งที่ 114,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 3.15 ล้านบาท) ท่ามกลางความคาดหวังต่อการประกาศดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ โดยก่อนหน้านี้ราคาบิตคอยน์พยายามฝ่าระดับแนวต้านที่ 113,000 ดอลลาร์ แต่ล้มเหลวหลายครั้ง ทำให้การทะลุผ่านในครั้งนี้ได้รับความสนใจจากนักลงทุนในตลาด
ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา บิตคอยน์แสดงสัญญาณฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง แม้เคยพยายามปรับฐานหลายครั้งก่อนหน้านี้ โดยในช่วงเช้าของวันนี้ ราคาบิตคอยน์พุ่งขึ้นถึง 114,500 ดอลลาร์ (ประมาณ 3.17 ล้านบาท) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 17 วัน ก่อนจะปรับตัวลดลงเล็กน้อย แต่ยังทรงตัวอยู่เหนือระดับ 114,000 ดอลลาร์อย่างมั่นคง ตลาดจึงจับตาว่าความเคลื่อนไหวของดัชนี CPI อาจเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิด ‘ความผันผวนเพิ่มขึ้น’
ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญในตลาด ชี้ว่าบิตคอยน์อาจเกิดการเคลื่อนไหวของราคาหลังการประกาศ CPI ในระยะสั้น แต่คาดว่าแนวโน้มราคาจะแสดงสัญญาณฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว หากอิงจากรูปแบบที่เกิดขึ้นซ้ำในช่วงการประกาศ CPI ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน ตลาดอัลต์คอยน์ก็อยู่ในช่วงขาขึ้นเช่นกัน ‘เมนเทิล(MNT)’ ปรับตัวขึ้นสูงสุดในวันนี้ โดยสร้างสถิติสูงสุดใหม่ที่ 1.65 ดอลลาร์ (ประมาณ 2,289 บาท) ส่วนเหรียญใหญ่อื่นๆ ก็แสดงผลตอบแทนในเชิงบวก เช่น อวาแลนเช(AVAX) เพิ่มขึ้นเกือบ 7% แตะระดับ 30 ดอลลาร์ (ประมาณ 41,700 บาท), ดอจคอยน์(DOGE) และสเตลลาร์ลูเมน(XLM) ขยับขึ้นราว 3% ขณะที่อีเธอเรียม(ETH) เพิ่มขึ้น 2.3% แตะระดับ 4,400 ดอลลาร์ (ประมาณ 611,600 บาท)
อย่างไรก็ตาม เหรียญที่ปรับตัวขึ้นแรงในช่วงก่อนหน้า อย่าง เวิลด์คอยน์(WLD) กลับปรับตัวลดลงมากกว่า 8% สะท้อนการเข้าสู่ช่วงย่อตัวหลังการดีดตัวรุนแรง แต่ถึงแม้จะมีการปรับฐานในบางเหรียญ มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมของคริปโตเคอร์เรนซียังคงขยับขึ้นแตะระดับ 4.06 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 5,639 ล้านล้านบาท) สร้างความหวังต่อ ‘ตลาดกระทิง’
ปัจจุบัน บิตคอยน์ครองส่วนแบ่งตลาดมากถึง 56% โดยมีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ราว 2.27 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 3,155 ล้านล้านบาท) ซึ่งนักวิเคราะห์ประเมินว่าการเปิดเผยตัวเลข CPI สหรัฐฯ และสัญญาณจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เกี่ยวกับนโยบายดอกเบี้ย จะเป็น *ปัจจัยชี้นำสำคัญ* ของทิศทางตลาดในระยะถัดไป
ความคิดเห็น 0