ดัชนีชี้วัดความผันผวนของราคาบิตคอยน์(BTC) อย่าง ‘โบลินเจอร์แบนด์’ กำลังเข้าสู่ระดับ ‘แคบที่สุดในประวัติศาสตร์’ นับตั้งแต่ปี 2009 ซึ่งถูกมองว่าเป็นสัญญาณเตือนว่า *การเคลื่อนไหวของราคาครั้งใหญ่* กำลังจะเกิดขึ้น จากแนวโน้มราคาในปัจจุบัน นักวิเคราะห์หลายรายชี้ว่านี่อาจเป็นการส่งสัญญาณขาขึ้นรอบใหม่ของตลาด
แมทธิว ไฮแลนด์(Matthew Hyland) นักเทรดและนักวิเคราะห์สายคริปโต เผยแพร่โพสต์ผ่านแพลตฟอร์ม X โดยระบุว่า ตามกราฟรายเดือนของบิตคอยน์ ดัชนีโบลินเจอร์แบนด์ได้แคบลงมากที่สุดนับตั้งแต่ที่บิตคอยน์ถือกำเนิดขึ้น เขามองว่านี่เป็นสัญญาณว่าราคาบิตคอยน์อาจมี *การเปลี่ยนแปลงในทิศทางอย่างรุนแรง* หลังจากที่เคลื่อนไหวในกรอบแคบมานาน
ในโพสต์เดียวกัน ไฮแลนด์ยังกล่าวว่า บิตคอยน์กำลังสร้างรูปแบบ ‘ถ้วยและด้ามจับ (cup and handle)’ ซึ่งมักถูกตีความว่าเป็นรูปแบบกราฟที่ส่งสัญญาณการเปลี่ยนเป็นเทรนด์ขาขึ้น พร้อมประเมินว่าเป้าหมายราคาจะอยู่ที่ราว 300,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 4.17 ล้านบาท
รูปแบบ ‘ถ้วยและด้ามจับ’ เป็นสัญญาณทางเทคนิคที่มีน้ำหนัก สำหรับระยะขาขึ้นอย่างมั่นคง โดยในอดีตทั้งตลาดหุ้นรายใหญ่และตลาดคริปโตก็เคยตอบสนองด้วยการปรับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญมาก่อน ในกรณีของบิตคอยน์ การเข้าสู่รอบ ‘สะสม’ หลังรอบ Halving ครั้งล่าสุด ได้เพิ่มความคาดหวังในหมู่นักลงทุนว่า แนวโน้มราคาจะฟื้นตัวอย่างรุนแรง
ในขณะเดียวกัน ปัจจัยสนับสนุนเชิงเทคนิคอื่น ๆ รวมถึงโครงสร้างแรงซื้อก็ชี้นำไปในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะการไหลเข้าของเงินลงทุนในบิตคอยน์ผ่าน ETF ประเภท Spot ที่ยังคงต่อเนื่องอย่างชัดเจน นอกจากนี้ ความเคลื่อนไหวของวงการการเมืองสหรัฐ ซึ่งรวมถึง *ประธานาธิบดีทรัมป์* ที่แสดงจุดยืนสนับสนุนคริปโตอย่างเปิดเผย ก็กระตุ้น *ความเชื่อมั่นของนักลงทุน* ให้กลับมาอีกครั้ง
ทั้งนี้ ตลาดกำลังจับตาว่าปัจจัยทางเทคนิคและพื้นฐานเหล่านี้ อาจนำไปสู่ *การทะลุกรอบที่ชัดเจน* ของราคาบิตคอยน์ในเร็ว ๆ นี้ อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเน้นย้ำว่าการบีบตัวของโบลินเจอร์แบนด์ ไม่ใช่การยืนยันทิศทางเพียงด้านเดียว เพราะหากเกิดการย่อตัว แรงเหวี่ยงของตลาดก็อาจรุนแรงเช่นเดียวกัน นักลงทุนจึงควรระมัดระวังต่อความผันผวนในช่วงนี้เป็นพิเศษ
ความคิดเห็น 0