เกาหลีใต้ปลดล็อกธุรกิจคริปโต รับรองเป็นสตาร์ทอัพได้ เริ่ม 16 ก.ย.นี้

รัฐบาลเกาหลีใต้เตรียมยกเลิกข้อจำกัด ‘การรับรองธุรกิจเป็นสตาร์ทอัพ’ สำหรับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลโดยเร็ว ภายใต้การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ บริษัทที่เกี่ยวข้องกับคริปโต รวมถึงแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล จะได้รับสิทธิประโยชน์จากนโยบายของรัฐ เช่น การลดหย่อนภาษีและการสนับสนุนทางการเงิน

เมื่อวันที่ 2 กระทรวงวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของเกาหลีใต้ประกาศว่า คณะรัฐมนตรีได้ผ่านร่างแก้ไข *พระราชกฤษฎีกาพิเศษว่าด้วยการส่งเสริมธุรกิจสตาร์ทอัพ* ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 16 กันยายนนี้ โดยเนื้อหาหลักของร่างกฎหมายฉบับใหม่นี้คือการยกเลิกข้อยกเว้นที่ไม่อนุญาตให้ธุรกิจ ‘ซื้อขายและนายหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล’ เข้าข่ายเป็นสตาร์ทอัพ นับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2018 อุตสาหกรรมนี้ถูกแยกออกจากการรับรองดังกล่าว เนื่องจากภาพลักษณ์ด้านเก็งกำไร แต่การแก้ไขครั้งนี้นับเป็นการคลายล็อกเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี

การแก้ไขพระราชกฤษฎีกานี้จะเปิดทางให้บริษัทด้านคริปโตได้รับการรับรองเป็นกิจการสตาร์ทอัพอย่างเป็นทางการ และสามารถเข้าถึง ‘การลดหย่อนภาษี, การสนับสนุนงบวิจัยและพัฒนา(R&D), การค้ำประกันสินเชื่อ’ และ ‘ความช่วยเหลือทางการเงิน’ ได้ ครู แทยอน ทนายความจากสำนักงานกฎหมายลิน กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า “ประโยชน์ของการแก้ไขนี้ ไม่ได้จำกัดเฉพาะธุรกิจเปิดใหม่เท่านั้น แต่ยังเป็นฐานให้บริษัทสตาร์ทอัพเดิมสามารถขยายกิจการเข้าสู่สายงานคริปโตได้” ก่อนหน้านี้ สตาร์ทอัพที่เจาะตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลมักเผชิญกับ ‘ความเสี่ยงต่อการสูญเสียสถานภาพธุรกิจสตาร์ทอัพ’ แต่การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้จะปลดล็อกอุปสรรคดังกล่าว

กฎหมายฉบับใหม่นี้ยังสอดรับกับทิศทางนโยบายใหม่ของรัฐบาลเกาหลีใต้ ที่มุ่งสนับสนุนการเติบโตของ ‘อุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล’ โดยเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา คณะกรรมการบริการทางการเงินได้ประกาศใช้ ‘กฎหมายคุ้มครองผู้ใช้งานสินทรัพย์ดิจิทัล’ อย่างเป็นทางการ และมีความคืบหน้าในการจัดตั้งกฎเกณฑ์ทางภาษีและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องในสภาแห่งชาติ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามผลักดันสินทรัพย์ดิจิทัลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจโดยตรง อีกทั้งยังเป็นการตอบสนองต่อเสียงวิจารณ์ก่อนหน้านี้ ที่ชี้ว่าไม่มีนโยบายปกป้องสตาร์ทอัพในอุตสาหกรรมนี้อย่างเพียงพอ

ในขณะเดียวกัน บนเวทีโลก ‘แนวโน้มหนุนสินทรัพย์ดิจิทัล’ ก็ทวีความชัดเจนมากขึ้น โดย *ทรัมป์* ผู้สมัครประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนปัจจุบัน ได้ประกาศสนับสนุน NFT และบิตคอยน์(BTC) อย่างเปิดเผย ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนว่า การผ่อนคลายกฎระเบียบของเกาหลีใต้อาจไม่เพียงแต่มีผลต่อการเติบโตในประเทศ แต่ยังเป็นหมุดหมายสำคัญในการเพิ่ม ‘ขีดความสามารถด้านการแข่งขันบนเวทีโลก’ อีกด้วย