ไบรอัน ควินเทนซ์(Brian Quintenz) ว่าที่ประธานคณะกรรมาธิการกำกับการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้า(CFTC) กลายเป็นจุดศูนย์กลางของกระแสวิพากษ์ หลังเปิดเผยข้อความส่วนตัวกับสองพี่น้อง คาเมรอนและไทเลอร์ วิงเคิลวอส(Cameron Winklevoss และ Tyler Winklevoss) ผู้ร่วมก่อตั้งเจมินี(Gemini) ซึ่งโยงถึงการแทรกแซงทางการเมือง ทั้งนี้เหตุการณ์เกิดขึ้นขณะเจมินีเตรียมเข้าตลาดหลักทรัพย์แนสแด็ก ส่งผลให้สถานการณ์ยิ่งตึงเครียด
ควินเทนซ์โพสต์ข้อความบางส่วนบน X (ชื่อเดิมคือ ทวิตเตอร์) โดยกล่าวหาว่าสองพี่น้องพยายามแทรกแซงกระบวนการเสนอชื่อของเขา พร้อมระบุว่าไทเลอร์แสดงความไม่พอใจต่อคดีแพ่งของ CFTC ที่เกี่ยวข้องกับบริษัท และยังตั้งคำถามว่าเขาจะสอดคล้องกับนโยบายการปฏิรูปของ *ประธานาธิบดีทรัมป์* อย่างไร ควินเทนซ์ได้ตอบปฏิเสธการรับปากใด ๆ และให้คำมั่นว่าจะพิจารณาอย่างยุติธรรม พร้อมทั้งอ้างว่าสองพี่น้องได้ดำเนินการติดต่อทรัมป์โดยตรงในเวลาต่อมา
เขายังกล่าวย้ำจุดยืนว่า “ข้อความนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงสิ่งที่พวกเขาคาดหวังจากผม และสิ่งที่ผมปฏิเสธ” พร้อมระบุว่าเขาเป็นผู้สนับสนุนทรัมป์มาตั้งแต่ปี 2016 และยกให้การรักษาทิศทางของ *ประธานาธิบดีทรัมป์* เหนือกว่าตำแหน่งใด ๆ ภายใต้กระแสข้อกังขาเรื่องความเป็นกลางทางการเมืองและภาวะความเป็นผู้นำของเขา
ผลสะเทือนจากเรื่องดังกล่าว เริ่มขยายไปถึงกำหนดการพิจารณารับรองของวุฒิสภาสหรัฐ โดยคณะกรรมาธิการเกษตรวุฒิสภาที่เดิมวางแผนจะจัดฟังคำชี้แจงของควินเทนซ์ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม ยังคงชะลอออกไปตามการร้องขอจากทำเนียบขาว และยังไม่มีความชัดเจนว่าเมื่อไรจะมีมติแน่ชัด
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงที่เจมินีกำลังเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แนสแด็กภายใต้ชื่อย่อ ‘GEMI’ โดยได้รับเงินลงทุนแบบปิดจำนวน 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 695 ล้านบาท) ซึ่งจะใช้เป็นทุนในการเสนอขาย IPO เป้าหมายของเจมินี คือการระดมทุนราว 430 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 5,977 ล้านบาท) ด้วยการเสนอขายหุ้นสามัญคลาส A จำนวน 16.7 ล้านหุ้น ในช่วงราคาหุ้น 24 ถึง 26 ดอลลาร์ต่อหุ้น ส่งผลให้บริษัทมีมูลค่าประเมินไม่ต่ำกว่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4.17 แสนล้านบาท)
ทั้งนี้ เจมินีเพิ่งตกลงจ่ายเงินจำนวน 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 69 ล้านบาท) ให้กับ CFTC เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เพื่อระงับข้อพิพาทจากข้อกล่าวหาให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับการขออนุมัติผลิตภัณฑ์ฟิวเจอร์สบิตคอยน์(BTC) ต่อมาในเดือนมิถุนายน ที่ปรึกษากฎหมายของบริษัทส่งจดหมายเปิดโปงภายในถึงผู้ตรวจสอบของ CFTC กล่าวหาว่าทนายภายในองค์กรพยายามใช้คดีนี้เพื่อสร้างชื่อเสียงตนเอง และชี้ว่าองค์กรได้ใช้เจมินีเป็น *‘เป้าหมาย’* ทางการเมือง
กรณีนี้สะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างบริษัทคริปโตและหน่วยงานกำกับดูแลในสหรัฐฯ *ความคิดเห็น:* ความคืบหน้าทั้งของการ IPO ของเจมินีและกระบวนการรับรองควินเทนซ์ อาจมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและทิศทางในวงการคริปโตเป็นอย่างมาก
ความคิดเห็น 0