ความกังวลเกี่ยวกับ ‘เงินเฟ้อสหรัฐ’ กลับมาเป็นประเด็นอีกครั้ง ส่งผลให้ *บิตคอยน์(BTC)* เผชิญแรงกดดันจากฝั่งขาลง แม้จะเคยปรับตัวขึ้นเกือบ 3.8% ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา และแตะระดับสูงกว่า 114,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 15,846,000 บาท) แต่กระแสการฟื้นตัวล่าสุดได้เริ่มชะลอลงทันทีหลังการเปิดเผยข้อมูล *ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)* ที่สูงกว่าคาด
เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า *CPI เดือนล่าสุดปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.9% จากเดิม 2.7%* สะท้อนภาพว่าเงินเฟ้อยังไม่คลี่คลาย และยังคงเป็นแรงกดดันต่อตลาด ส่งผลให้ความคาดหวังในหมู่นักลงทุนเกี่ยวกับแนวโน้มดอกเบี้ยเริ่มเปลี่ยนไป หลายฝ่ายเชื่อว่า *ธนาคารกลางสหรัฐ(Fed)* อาจเลือก ‘ขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติม’ หรือ ‘คงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูง’ ไปอีกระยะ ผลที่ตามมาคือภาพรวมของตลาดสินทรัพย์เสี่ยง เช่น *บิตคอยน์* เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะกังวลอีกครั้ง
นักวิเคราะห์ตลาด เท็ด ฟีโลวส์(Ted Pillows) ให้ความเห็นว่า “การที่บิตคอยน์สามารถทะลุ 114,000 ดอลลาร์ ถือเป็นเพียงจังหวะสั้นๆ และการปรับขึ้นของ CPI ได้ทำให้กลไกการลงทุนสั่นคลอนอีกครั้ง” พร้อมระบุเพิ่มเติมว่า แม้ว่า *ดัชนีดาวโจนส์และ S&P500 ฟิวเจอร์สจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นเล็กน้อย* แต่ตลาดคริปโตกลับได้รับผลกระทบในเชิงลบที่รุนแรงและรวดเร็วกว่ามาก
ขณะที่ ณ เวลารายงาน บิตคอยน์กำลังซื้อขายที่ระดับประมาณ 114,439 ดอลลาร์ (ประมาณ 15,895,000 บาท) ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยจากวันก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม ปริมาณการซื้อขายรายวันกลับลดลง 12.35% อยู่ที่ประมาณ 47,940 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 6.65 ล้านล้านบาท) ซึ่ง ‘แสดงให้เห็นถึงภาวะลังเลในการเข้าซื้อของนักลงทุน’ ความเชื่อมั่นในระยะสั้นยังไม่มีสัญญาณฟื้นชัดเจน
ในอีกมุมหนึ่ง ความเห็นของ แฟรด ครูเกอร์(Fred Krueger) อดีตนักวิเคราะห์เชิงปริมาณจากวอลล์สตรีท ได้รับความสนใจอย่างมาก เขาเสนอแนวคิดว่าหาก *รัฐบาลสหรัฐ* ใช้ ‘รายได้จากภาษีศุลกากร’ เพื่อซื้อสะสม *บิตคอยน์* อาจกลายเป็นแรงเร่งสำคัญให้ราคาดีดขึ้น โดยอ้างว่า รัฐบาลสามารถสร้างรายได้จากภาษีดังกล่าวกว่า 50,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 6.95 ล้านล้านบาท) ต่อเดือน ซึ่งสามารถนำไปใช้ซื้อบิตคอยน์ได้มากถึง 400,000 เหรียญ
*ความคิดเห็น*: หากแนวทางการซื้อบิตคอยน์โดยตรงของรัฐบาลเกิดขึ้นจริง ‘ความต้องการในตลาดจะพุ่งสูงเกินอุปทาน’ ซึ่งอาจดันราคาพุ่งอย่างรวดเร็ว
โดยสรุป ทิศทางของบิตคอยน์ในระยะสั้นยังคงขึ้นอยู่กับท่าทีของเงินเฟ้อและนโยบายการเงินจาก *Fed* อย่างใกล้ชิด และหากมีความเคลื่อนไหวที่ไม่คาดคิด เช่น การเข้าซื้อคริปโตโดยรัฐบาล ก็อาจทำให้บรรยากาศการลงทุนเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง นักลงทุนควรจับตา ‘นโยบายภาครัฐ’ และ ‘ดัชนีเศรษฐกิจมหภาค’ อย่างใกล้ชิดในระยะต่อไป
ความคิดเห็น 0