เมซาริ รีเสิร์ช(Messari Research) เปิดเผยรายงานล่าสุดเกี่ยวกับผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2025 ของ *ไฟล์คอยน์(Filecoin, FIL)* โดยเน้นถึงทิศทางการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของเครือข่ายและศักยภาพในการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แม้ว่า ‘ปริมาณการจัดเก็บข้อมูลรวม’ จะลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าถึง 13% แต่ ‘อัตราการใช้งาน’ กลับพุ่งขึ้นถึง 32% ซึ่งชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มที่เครือข่ายมุ่งเน้นไปยัง ‘ความต้องการ’ มากกว่าด้าน ‘อุปทาน’
ข้อมูลจากรายงานระบุว่า ปริมาณการจัดเก็บข้อมูลรวมระหว่างไตรมาสอยู่ที่ 1,100 เพตตะไบต์(PiB) ลดลงจาก 1,300 PiB ในไตรมาสก่อนหน้า แต่ในทางกลับกัน ‘ธุรกรรมการจัดเก็บข้อมูลใหม่รายวัน’ กลับเพิ่มขึ้น 25% แตะระดับ 3.4 PiB เครือข่ายไฟล์คอยน์กำลังพัฒนาไปสู่ *โครงสร้างที่เน้นธุรกรรมที่มีคุณค่าและมีความยั่งยืนมากขึ้น* แทนที่สัญญาขนาดใหญ่ราคาถูกในอดีต โดยรูปแบบการใช้งานประเภท *งานที่มีมูลค่าสูง* กำลังเป็นที่สังเกตชัดเจนมากขึ้น
ในด้านของ ‘ข้อมูลชุดขนาดใหญ่’ หรือ *Dataset* จำนวนได้เพิ่มขึ้น 3% สู่ 2,416 รายการ โดยในจำนวนนี้มีถึง 864 รายการที่มีขนาดเกินกว่า 1,000 เทบิบา이트(TiB) เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า 7.5% เมซาริ รีเสิร์ชวิเคราะห์ว่า *การเพิ่มขึ้นของข้อมูลขนาดใหญ่สะท้อนถึงการใช้งานไฟล์คอยน์ในระดับองค์กรและสถาบันการศึกษา* ที่ต้องการระบบจัดเก็บข้อมูลที่มี ‘ความทนทานสูง’
ด้านเทคโนโลยี โครงสร้างใหม่อย่าง ‘การพิสูจน์การถือครองข้อมูล (Proof of Data Possession หรือ PoDP)’ ซึ่งเปิดตัวบนเมนเน็ตเมื่อเดือนพฤษภาคม ได้กลายเป็นกลไกยืนยันข้อมูลแบบเบาที่ช่วยปรับปรุง ‘การยืนยันโดยรวม’ ของผู้ให้บริการสตอเรจในเครือข่าย เป็นการยกระดับความสามารถ “ของการเข้าถึงข้อมูล” และถือเป็นรากฐานสำคัญของรูปแบบจัดเก็บข้อมูลแบบ ‘กระจายอำนาจ’
หนึ่งในการเคลื่อนไหวสำคัญของไตรมาสนี้คือการเปิดตัวสะพานเชื่อม *ครอสเชน* ระหว่างไฟล์คอยน์และ *อาวาแลนเช(Avalanche)* ซึ่งเปิดทางให้สามารถใช้งานไฟล์คอยน์ในเครือข่าย Avalanche ได้โดยตรง ฟีเจอร์นี้ช่วยเสริมความสามารถในการจัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ ขณะที่ยังคงไว้ซึ่ง ‘ธรรมาภิบาลแบบข้ามเชน’ และ ‘การตรวจสอบแบบออนเชน’ ทั้งยังสะท้อนนโยบายขยายการใช้งานไปสู่ *แอปพลิเคชันแบบมัลติเชน*
ในฝั่งดีไฟน์ (DeFi) *USDFC* ซึ่งเป็นเหรียญเสถียรที่มีหลักประกันเป็น FIL มีมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นสู่ 300,000 ดอลลาร์ ณ สิ้นไตรมาส เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจากไตรมาสก่อนหน้าที่อยู่ที่ 93,000 ดอลลาร์ เมซาริชี้ว่า USDFC ช่วยส่งเสริม ‘สภาพคล่องของ FIL’ และกลายเป็นเครื่องมือรักษามูลค่าสำหรับ ‘ผู้ให้บริการจัดเก็บข้อมูล’
มีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจในด้าน ‘โครงสร้างค่าธรรมเนียมเครือข่าย’ เช่น ค่าธรรมเนียมพื้นฐานเพิ่มขึ้น 162% เป็น 155,000 ดอลลาร์ ในขณะที่ค่าธรรมเนียมสำหรับธุรกรรมขนาดใหญ่ (batch deals) ลดลงถึง 88% ด้านค่าปรับ (penalty fee) พุ่งขึ้น 93% รวม 520,000 ดอลลาร์ ซึ่งชี้ให้เห็นถึง *การลงโทษกับผู้ให้บริการที่ไม่สามารถรักษาการทำงานตามเกณฑ์ที่กำหนด*
ระบบสมาร์ตคอนแทรกต์ที่พัฒนาบน *Filecoin Virtual Machine (FVM)* มีการใช้งานเพิ่มขึ้นโดยนักพัฒนานิยมผสานข้อมูลเข้ากับฟังก์ชันอัตโนมัติมากขึ้น แม้ว่าจำนวนเหรียญใหม่ที่เข้าสู่ระบบจะลดลง 23% แต่เมื่อคิดเป็นหน่วย FIL กลับเพิ่มขึ้น 11% สะท้อนว่า ‘กิจกรรมของผู้ใช้บนเครือข่ายไม่ได้ลดลง’
มูลค่ารวมที่ล็อกไว้ใน DeFi (TVL) บนไฟล์คอยน์ลดลงถึง 16.4% เมื่อคิดเป็นดอลลาร์ซึ่งเป็นผลจากราคาของ FIL ที่ลดลง นอกจากนี้จำนวนเหรียญที่นำมาใช้ในระบบสเตคกิ้ง (รวมถึงรูปแบบแบบลิควิด) ก็ลดลงเช่นกัน ทั้งจากการลดลงของจำนวนเหรียญและราคาตลาด อย่างไรก็ดี เมซาริมองว่า สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นสัญญาณว่า ‘ตลาดถดถอย’ แต่ถือเป็น ‘การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง’ ตามยุทธศาสตร์ระยะยาวของไฟล์คอยน์
รายงานยังชี้ว่า ไฟล์คอยน์กำลังเข้าถึงตลาดใหม่ผ่านการจัดเก็บและใช้ข้อมูลที่อิงกับ ‘ลูกค้าเป้าหมายในอุดมคติ (Ideal Customer Profile หรือ ICP)’ ไม่ว่าจะเป็น *AI, DePIN หรือ Web3* และองค์กรอย่าง *The Defiant, มหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ และ Storacha* ต่างเป็นผู้ใช้งานผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง
โดยรวม ไฟล์คอยน์กำลังเสริมความแข็งแกร่งในฐานะโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลแบบกระจายอำนาจ โดย ‘กลยุทธ์ที่เน้นการยอมรับในภาพรวมของระบบกลางระยะยาว’ มากกว่าผลตอบแทนระยะสั้น และมีแนวโน้มเห็นการรวมเข้ากับ *ครอสเชน* และ ‘สมาร์ตคอนแทรกต์’ อย่างกว้างขวางมากขึ้นในอนาคต
ความคิดเห็น 0