ถอน 2.6 ล้านล้านชิบะอินุ(SHIB) จุดชนวนคาดการณ์ขาขึ้น นักวิเคราะห์ชี้เป็นสัญญาณเชิงบวก

ชิบะอินุ(SHIB) กลับมาเป็นที่จับตามองของตลาดอีกครั้ง หลังจากเมื่อวันที่ 9 เกิดการถอนเหรียญออกจากกระดานเทรดรวมกว่า 2.6 ล้านล้าน SHIB ภายในวันเดียว ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกรณี ‘การย้ายเหรียญออกจากศูนย์กลาง’ ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติของโครงการ แม้ยังไม่มีคำอธิบายอย่างชัดเจนสำหรับการเคลื่อนไหวครั้งนี้ แต่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่าเป็น ‘สัญญาณทางบวก’ ที่มักเกิดขึ้นก่อนตลาดขาขึ้น

การเคลื่อนย้ายสินทรัพย์ออกจากกระดานเทรดหมายความว่าแรงกดดันด้านการขายลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีนี้ซึ่งเชื่อว่ามาจากนักลงทุนรายใหญ่หรือสถาบัน ที่อาจย้ายเหรียญไปเก็บไว้ในวอลเล็ตเย็น การลดการเข้าถึงเหรียญในตลาดอย่างกะทันหัน ช่วยเปิดโอกาสในการฟื้นตัวของราคา เพราะเมื่ออุปทานลดลง เพียงความต้องการขยับขึ้นเล็กน้อยก็อาจทำให้ราคาปรับตัว ‘อย่างรวดเร็ว’

จากข้อมูลในแพลตฟอร์มเทรดดิ้งวิว(TradingView) กราฟ SHIB/USDT บ่งชี้ว่าราคากำลังเคลื่อนไหวใกล้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน (EMA) และเกิดภาวะแน่นขึ้นของความผันผวน ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มในเร็ว ๆ นี้ ปัจจุบัน SHIB กำลังพยายามฝ่าต้านในช่วง 0.0000130~0.0000138 ดอลลาร์ หากทะลุระดับนี้ได้อย่างชัดเจน อาจเป็น ‘จุดเริ่มต้นของแนวโน้มขาขึ้นในระยะกลางถึงยาว’

นักวิเคราะห์หลายคนมองว่าการถอนเหรียญในครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงความเคลื่อนไหวทางเทคนิคธรรมดา แต่เป็น ‘จุดเปลี่ยนของมุมมองนักลงทุน’ โดยตั้งแต่ต้นปี 2025 ชิบะอินุเผชิญกับความผันผวนอย่างต่อเนื่อง แต่ล่าสุดมีสัญญาณว่ากลุ่มผู้ถือเหรียญเริ่มปรับกลยุทธ์จากการเก็งกำไรไปสู่การสะสมและถือระยะยาว ปรากฏการณ์นี้สะท้อนว่าเม็ดเงินใหม่อาจไม่จำเป็นต้องไหลเข้าทุกเวลา หากผู้ถือเดิมยังคงถือเหรียญต่อไป ก็สามารถสร้างแรงสนับสนุนให้ราคาเคลื่อนไหวในทิศทางที่ดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม ‘การถอน 2.6 ล้านล้าน SHIB’ ไม่ได้หมายความว่าราคาจะพุ่งในทันที นักวิเคราะห์เตือนว่ามีความเป็นไปได้ที่ราคาจะเผชิญแรงกดดันในระยะสั้น แต่หากอุปทานลดลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ความต้องการทรงตัวหรือเพิ่มขึ้น SHIB อาจกลับมาอยู่ใน ‘ตำแหน่งที่แข็งแกร่งในระยะยาว’ และข้อมูลเหล่านี้ถือเป็น ‘ตัวแปรสำคัญ’ สำหรับนักลงทุนสายระยะยาวในการประเมินทิศทางตลาด

ในท้ายที่สุด การย้ายเหรียญมูลค่าราว 494 ล้านบาทในครั้งนี้ อาจไม่นับเป็นแค่เรื่องทางเทคนิค หากแต่กลายเป็น ‘จุดเปลี่ยนโครงสร้างของตลาด’ ที่สะท้อนการเติบโตของชิบะอินุ(SHIB) จากมีมโทเคน ไปสู่อะไรที่ ‘มากกว่าแค่มีม’ อีกครั้ง ความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่นี้จึงเป็นสิ่งที่นักลงทุนควรจับตาอย่างใกล้ชิด