ข่าว 
ข้อมูลเหรียญ 
แนะนำสื่อ 
ชิบะอินุ(SHIB) แสดงสัญญาณ ‘ฟื้นตัวระยะสั้น’ ด้วยการปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ในภาพรวมทั้งปี ยังอยู่ในภาวะ ‘ขาดทุนมหาศาล’ แม้กระแสความเชื่อมั่นในตลาดคริปโตจะเริ่มฟื้นตัว ข้อมูลจาก CoinDesk เมื่อวันที่ 9 ระบุว่า ราคาชิบะอินุภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 3.7% มาอยู่ที่ 0.00001286 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.79 บาท) ขณะที่ตลอดสัปดาห์เพิ่มขึ้น 5.6% โดยเฉพาะในวันที่ 9 ซึ่งราคาพุ่งเกือบ 4% ในวันเดียว
นักวิเคราะห์มองว่าการดีดกลับในช่วงนี้เป็นผลจาก ‘ความคาดหวัง’ ต่อการประกาศดัชนีผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ รวมถึง ‘ความเป็นไปได้ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย’ ที่จะถูกพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมการ FOMC ระหว่างวันที่ 16–17 กันยายน
ราคาชิบะอินุเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน โดยแตะจุดต่ำสุดที่ 0.00001181 ดอลลาร์ ก่อนจะค่อย ๆ ไต่กลับขึ้นมาแตะระดับ 0.00001226 ดอลลาร์ในวันที่ 7 และทำ ‘แท่งเขียวต่อเนื่อง’ ตั้งแต่วันที่ 8 ซึ่งถือเป็นสัญญาณเชิงบวก นักลงทุนกำลังจับตาการขยับผ่านแนวต้านสำคัญที่เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 และ 200 วันที่ระดับ 0.00001292 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.79 บาท) และ 0.00001303 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.81 บาท)
อย่างไรก็ตาม เมื่อย้อนมองผลงานตลอดปี 2024 ราคาชิบะอินุยัง ‘ลดลงกว่า 39.28%’ ถือว่าค่อนข้างผิดปกติเมื่อเทียบกับปีอื่น ๆ โดยเฉพาะในปี 2021, 2023 และต้นปี 2024 ซึ่ง SHIB เคยปิดบวกทั้งหมด ขณะที่ในปี 2022 เคยร่วงหนักกว่า 75.79% แม้ในช่วงต้นปี 2024 ชิบะอินุจะพุ่งขึ้นถึง 104% แต่การขาดความชัดเจนเชิงทิศทางตั้งแต่กลางปี ทำให้โมเมนตัมชะลอลงชัดเจน
นักวิเคราะห์ด้านเทคนิคระบุว่า แนวต้านถัดไปอยู่ที่ 0.0000135 ดอลลาร์, 0.000014 ดอลลาร์ และ 0.00001597 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.88, 1.95 และ 2.22 บาท) ขณะที่แนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ 0.000011 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.53 บาท)
ความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญในตลาดระบุว่า “หากราคาสามารถทรงตัวหรือทะลุแนวต้านได้ในไตรมาส 4 โอกาสฟื้นตัวก็ยังมี” อย่างไรก็ตาม ยังต้องอาศัย ‘ปัจจัยบวกจากเศรษฐกิจมหภาค’ ร่วมกับ ‘การพัฒนาในระบบนิเวศของชิบะอินุเอง’ เช่น การขยายแพลตฟอร์มชิบาริอุม และโปรเจกต์ NFT ที่ยังอยู่ระหว่างเร่งพัฒนา ซึ่งทั้งหมดจะเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนราคาต่อไป
สุดท้าย แม้ราคาชิบะอินุจะดีดกลับได้ในระยะสั้น แต่ยังไม่มี ‘สัญญาณชัดเจนของการฟื้นตัวในระยะยาว’ นักลงทุนจึงยังต้องจับตาทิศทางตลาดต่อในช่วง 4 เดือนที่เหลือของปีนี้ โดยเฉพาะก่อนเข้าสู่ปี 2025 ที่อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของสกุลเงินดิจิทัลนี้
ความคิดเห็น 0