Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

คริปโตดอทคอมชี้ ค่าก๊าซอีเธอเรียม(ETH) คือกลไกเศรษฐกิจสำคัญ เสริมความปลอดภัยบล็อกเชน

คริปโตดอทคอมชี้ ค่าก๊าซอีเธอเรียม(ETH) คือกลไกเศรษฐกิจสำคัญ เสริมความปลอดภัยบล็อกเชน / Tokenpost

ตามรายงานของคริปโตดอทคอม(Crypto.com) ที่เผยแพร่เมื่อเร็ว ๆ นี้ การใช้ ‘ค่าก๊าซ’ หรือที่รู้จักกันว่า *gas fee* บนเครือข่ายอีเธอเรียม(ETH) ไม่ได้เป็นเพียงแค่ค่าธรรมเนียมสำหรับการประมวลผลธุรกรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นกลไกทางเศรษฐกิจสำคัญที่ช่วยรักษา ‘เสถียรภาพ’ และ ‘ความปลอดภัย’ ของเครือข่ายอีกด้วย โดยระบบนี้ทำหน้าที่ประเมินและเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากผู้ใช้ผ่านการแปลงภาระงานเชิงคอมพิวเตอร์ให้เป็นต้นทุนที่เรียกเก็บเป็น ETH ส่งผลให้โครงสร้างค่าก๊าซมีบทบาทสำคัญในการป้องกันการโจมตีแบบสแปมอย่างมีประสิทธิภาพ

จากการวิเคราะห์ของคริปโตดอทคอม ค่าก๊าซนั้นสะท้อนถึงต้นทุนที่แท้จริงของการดำเนินงานบล็อกเชน โดยไม่ใช่เพียงค่าน้ำมันเบนซินเสมือนในโลกดิจิทัล แต่คือค่าคำนวณของระบบที่ผู้ใช้ต้องจ่ายในรูปแบบของก๊าซตามปริมาณคำสั่งที่ใช้ ยกตัวอย่าง ในอีเธอเรียม ค่าก๊าซจะวัดและแสดงเป็นหน่วย ‘Gwei’ ซึ่งมีค่าเท่ากับ 0.000000001 ETH และผู้ใช้สามารถกำหนดราคาค่าก๊าซตามความเหมาะสม โดยขึ้นอยู่กับความเต็มใจในการจ่ายและระดับความแออัดของเครือข่าย โดยทั่วไปหากค่าก๊าซที่ตั้งไว้สูง ก็มีแนวโน้มว่าธุรกรรมนั้นจะได้รับการตรวจสอบและยืนยันเร็วขึ้น

ในด้านความปลอดภัย ค่าก๊าซยังถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำงานเป็น *แรงจูงใจทางเศรษฐกิจ* ให้แก่ผู้ตรวจสอบธุรกรรมหรือผู้ตรวจสอบบล็อก เพราะค่าก๊าซเหล่านี้คือรางวัลที่พวกเขาได้รับจากการประมวลผลงานของเครือข่าย โครงสร้างเช่นนี้จึงกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่องบนบล็อกเชน และยังช่วยกรองธุรกรรมจากความต้องการจริงได้อย่างมีประสิทธิผล โดยการจัดลำดับความสำคัญของธุรกรรมซึ่งเกิดขึ้นตามค่าก๊าซที่จ่าย

อย่างไรก็ตาม ค่าก๊าซนั้นไม่ได้มีอัตราคงที่ แต่แปรผันไปตามหลายปัจจัย เช่น ประเภทธุรกรรม, เวลาดำเนินการ, และระดับความคับคั่งของเครือข่ายในปัจจุบัน จากข้อมูลของคริปโตดอทคอม ผู้ใช้สามารถลดค่าก๊าซได้โดยการหลีกเลี่ยงช่วงพีคของเครือข่าย การใช้งานเลเยอร์ 2 เช่น โซลูชันนอกเชน หรือการใช้กระเป๋าเงินที่มีฟีเจอร์ปรับค่าธรรมเนียม ซึ่งกลยุทธ์เหล่านี้ช่วยเสริมประสิทธิภาพและลดต้นทุนได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะเลเยอร์ 2 ที่เข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระของเชนหลัก ขณะที่ยังคงรักษาความเร็วและประสิทธิภาพในการดำเนินการ

เช่นเดียวกับอีเธอเรียม บล็อกเชนสาธารณะอื่น ๆ ก็ใช้โครงสร้างค่าก๊าซคล้ายกัน อย่างเช่นบนเครือข่ายครอนอส(Cronos) ที่ใช้โทเคน CRO เป็นค่าก๊าซ กลไกเช่นนี้ช่วยสร้างความชัดเจนให้กับต้นทุนของการใช้งานระบบ ลดโอกาสใช้ทรัพยากรเปลืองโดยไม่จำเป็น และยังคงรักษา *ความเป็นเจ้าของที่กระจายตัว* ตามหลักการของบล็อกเชนได้อีกด้วย ทั้งนี้ ผู้ใช้ต้องระมัดระวังการกำหนดค่าก๊าซต่ำเกินไป เพราะแม้อาจประหยัดต้นทุนแต่ก็เสี่ยงต่อการที่ธุรกรรมไม่ถูกยืนยัน หรือข้อผิดพลาดที่ก่อให้เกิดความสูญเสียได้

ท้ายที่สุดแล้ว ค่าก๊าซทำหน้าที่เป็นกลไกเชื่อมโยงสำคัญในระบบนิเวศบล็อกเชน ที่ช่วยรักษาความมั่นคง จุดประกายแรงจูงใจ และรักษาประสิทธิภาพการดำเนินงานให้สมดุลพร้อมกัน คริปโตดอทคอมระบุว่า ในอนาคตระบบค่าธรรมเนียมต่าง ๆ จะยังคงปรับตัวสู่ทิศทางที่ ‘มีต้นทุนถูกลงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น’ ซึ่งผู้ใช้ควรส่งเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับราคาค่าก๊าซเพื่อวางกลยุทธ์ใช้งานแต่ละธุรกรรมให้คุ้มค่าสูงสุด ความเข้าใจในระบบค่าก๊าซจะเป็นกุญแจสำคัญต่อการใช้งานบล็อกเชนอย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1