ตลาดอีเธอเรียม(ETH) กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้งจากการเคลื่อนย้ายเงินทุนจำนวนมาก เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์วิเคราะห์ข้อมูลบล็อกเชน ออนเชน เลนส์(Onchain Lens) รายงานว่า มีการโอนอีเธอเรียมจำนวนกว่า 15,000 เหรียญเข้าสู่กระดานเทรดไบแนนซ์(Binance) โดยการทำธุรกรรมดังกล่าวมีต้นทางมาจากกระเป๋าเงินที่เกี่ยวข้องกับบริษัทให้บริการทางการเงินด้านคริปโตอย่างแมทริกซ์พอร์ต(Matrixport) ซึ่งมีมูลค่ารวมประมาณ 64.67 ล้านดอลลาร์ หรือราว 899 พันล้านวอน การเคลื่อนไหวนี้ถูกตีความในตลาดว่าเป็น ‘สัญญาณการขาย’ เนื่องจากความเป็นไปได้ในการทำกำไรจากราคาที่ขึ้นมาก่อนหน้านี้
ขณะที่ราคาอีเธอเรียมยังคงอยู่ในช่วงปรับฐาน โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมาร่วงลงไปแล้วประมาณ 1.79% ส่งผลให้ไม่สามารถรักษาทิศทางขาขึ้นได้ อีกทั้งการเพิ่มขึ้นของสภาพคล่องในตลาดยังอาจกลายเป็นแรงกดดันต่อราคามากขึ้นอีกด้วย ปัจจุบันอีเธอเรียมมีมูลค่าซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 4,316.84 ดอลลาร์ต่อเหรียญ หรือราว 600 ล้านบาท โดยในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาราคาได้ฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยที่ 0.41% โดยมีความผันผวนของราคาอยู่ระหว่างระดับต่ำสุดที่ 4,271.53 ดอลลาร์ และสูงสุดที่ 4,336.68 ดอลลาร์
สิ่งที่น่าจับตามากคือปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยในช่วง 24 ชั่วโมงล่าสุดพบว่า วอลุ่มการซื้อขายเพิ่มขึ้นถึง 21.52% ส่งผลให้มูลค่าการซื้อขายรวมพุ่งแตะระดับ 23.24 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 32.3 ล้านล้านวอน ซึ่งสะท้อนถึงความเคลื่อนไหวในตลาดที่คึกคักขึ้น ความเปลี่ยนแปลงนี้ก่อให้เกิดมุมมองที่หลากหลาย บางฝ่ายกังวลว่าเป็น ‘ความกดดันเชิงขาย’ ที่อาจจะตามมา ส่วนอีกด้านมองว่า หากมีแรงซื้อรองรับเพียงพอ ราคาก็อาจรักษาระดับได้อย่างมั่นคง
บรรยากาศในตลาดยังคงต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากมีกรณีคล้ายกันเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ที่ผ่านมา ซึ่งมีการถ่ายโอนอีเธอเรียมจำนวน 60,000 เหรียญ มูลค่าราว 328.04 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 4.5 พันล้านวอน เข้าสู่ไบแนนซ์เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม การโอนในครั้งนั้นมาจากแอดเดรสที่เชื่อมโยงกับบริการสเตกกิ้ง จึงถูกตีความในเชิงบวก ต่างจากครั้งนี้ที่เชื่อมโยงกับแมทริกซ์พอร์ตซึ่งเป็นผู้ให้บริการทางการเงิน ทำให้ตลาดให้ความสำคัญกับ ‘ความเป็นไปได้ในการขาย’ มากกว่า
นอกจากนี้ ยังพบความไม่สมดุลในตลาดอีเธอเรียมเมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยผู้ขายมีจำนวนมากกว่าผู้ซื้อถึงประมาณ 570 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 7.9 พันล้านวอน ความเหลื่อมล้ำนี้ส่งผลให้เกิด ‘แรงกดดันขาลง’ ต่อราคาในวงกว้าง ผู้เชี่ยวชาญหลายคนแสดงความเห็นตรงกันว่า แนวโน้มนี้อาจทำให้ราคาปรับตัวลดลงในระยะสั้นอีก และนักลงทุนควร ‘เข้าตลาดอย่างระมัดระวัง’
ตลาดจึงจับตามองการเคลื่อนไหวถัดไปของแมทริกซ์พอร์ต รวมถึงปริมาณการไหลเข้าออกของ ETH ในกระดานซื้อขาย และเทรนด์ของวอลุ่มซื้อขายอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมิน ‘ทิศทางราคาของอีเธอเรียมในช่วงกลางถึงระยะสั้น’ ต่อไป
ความคิดเห็น 0