กระเป๋าเก่าของมูลนิธิอีเธอเรียมที่ถือครอง อีเธอเรียม(ETH) ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นได้มีความเคลื่อนไหวเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 9 ปี โดยเมื่อไม่นานมานี้ได้มีการโอนเหรียญในจำนวน 4,000 ETH หรือมูลค่าราว 95.6 ล้านบาท ไปยังที่อยู่ใหม่ ซึ่งสร้างความกังวลให้กับนักลงทุนและตลาดในวงกว้าง
กระเป๋าดังกล่าวถูกใช้ครั้งแรกในปี 2015 ซึ่งในขณะนั้น อีเธอเรียม มีราคาอยู่ที่ประมาณ 0.93 ดอลลาร์ต่อเหรียญ และมูลนิธิอีเธอเรียมได้ทำการโอน 97,500 ETH ไปยังที่อยู่นี้ ต่อมามีเพียงการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยจากการส่งเหรียญไปยังแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง คราเคน(Kraken) แต่ส่วนใหญ่แล้วเหรียญเหล่านี้ยังคงอยู่ในกระเป๋าแบบไม่เคลื่อนไหว จนกระทั่งมีการย้ายเหรียญจำนวนมากอีกครั้งในรอบนี้
การเคลื่อนไหวของกระเป๋านี้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่การเคลื่อนย้ายสินทรัพย์ทั่วไป แต่ยังถือเป็นสัญญาณเตือนว่าปริมาณ อีเธอเรียม ที่ถูกจัดสรรตั้งแต่ช่วงเริ่มโครงการมีโอกาสกลับเข้าสู่ตลาดอีกครั้ง *ความคิดเห็น* การปรากฏตัวของกระเป๋านี้ยังสร้างแรงกดดันทางจิตวิทยาแก่ตลาด เนื่องจากอาจมีความเป็นไปได้ว่าผู้ถือเหรียญอาจตัดสินใจขายในอีกไม่ช้า
ขณะนี้ อีเธอเรียม กำลังซื้อขายอยู่ที่บริเวณ 4,307 ดอลลาร์ (ประมาณ 598,000 บาท) ซึ่งใกล้เคียงกับเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน โดยระดับแนวรับระยะสั้นอยู่ที่ 4,144 ดอลลาร์ (576,000 บาท) แนวต้านกลางอยู่ที่ 3,607 ดอลลาร์ (501,000 บาท) และแนวรับที่สำคัญที่สุดอยู่บริเวณเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วันที่ 3,190 ดอลลาร์ (443,000 บาท) ซึ่ง *ความคิดเห็น* หากมีการโยกย้ายเหรียญจำนวนมากเข้าตลาดจริง อาจเป็นการทดสอบแนวรับทั้งหมดนี้ในระดับหนึ่ง
ที่ผ่านมา การเคลื่อนไหวอย่างกะทันหันของกระเป๋าเก็บเหรียญขนาดใหญ่ ก็มักจะตามมาด้วยความผันผวนของราคาอย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่าจะยังไม่พบหลักฐานว่ามีการโอนเหรียญไปยังแพลตฟอร์มซื้อขายโดยตรง แต่อย่างไรก็ตาม หากพบว่ามีการโอนเข้าสู่ตลาด ก็อาจเป็นสัญญาณการขายในทันที
การกลับมาของกระเป๋าใบนี้ยังมี ‘ความหมายเชิงสัญลักษณ์’ สำหรับประวัติศาสตร์ของอีเธอเรียม เนื่องจากการปรากฏตัวของสินทรัพย์ที่ไม่เคลื่อนไหวมานาน อาจถูกมองในฐานะ *สัญญาณเชิงลบของตลาด* แม้ปริมาณที่ย้ายในครั้งนี้จะไม่ได้ส่งผลต่ออุปทานรวมหรือมูลค่าตลาดอย่างชัดเจน แต่ก็มีโอกาสสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อ ‘จิตวิทยาการลงทุน’
กระแสความเคลื่อนไหวเช่นนี้เป็น ‘สัญญาณเตือน’ ที่ชี้ให้เห็นถึงความเป็นไปได้ของการเข้าสู่ตลาดของสินทรัพย์ที่ถือมาอย่างยาวนาน และย้ำให้ตลาดไม่มองข้าม ‘ความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่’ ที่อาจกลับมาเป็นปัจจัยแรงกดดันต่อราคาของอีเธอเรียมในอนาคต ทั้งนี้แม้จะมีสัญญาณเทคนิคที่ดูมั่นคง แต่เมื่อ ‘ซัพพลายที่ซ่อนอยู่’ เริ่มปรากฏขึ้นอีกครั้ง ตลาดคริปโตจึงยังไม่สามารถวางใจได้อย่างเต็มที่
ความคิดเห็น 0