แม้อีเธอเรียม(ETH)จะทะยานแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงที่ผ่านมา แต่รายงานล่าสุดจากเมสซารี่(Messari) กลับชี้ให้เห็นว่าเครือข่ายอีเธอเรียมกำลัง ‘ถดถอย’ อย่างมีนัยสำคัญ โดยนักวิเคราะห์ AJC ระบุว่ารายได้ของเครือข่ายลดลงอย่างน่ากังวล เป็นสัญญาณของ ‘โครงสร้างพื้นฐานที่อ่อนแอ’ มากกว่าประเด็นผันผวนปกติ
ตามข้อมูลจาก AJC รายได้ของอีเธอเรียมในเดือนสิงหาคมอยู่ที่ประมาณ 39.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 544 พันล้านวอน) ลดลงกว่า 75% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และลดลงเกือบ 30% จากเดือนก่อนหน้า ซึ่งถือเป็นระดับรายได้ต่ำที่สุดนับตั้งแต่มกราคม 2021 ถือเป็น ‘สัญญาณเตือน’ ว่าระบบอาจกำลังเผชิญปัญหาที่หนักหนายิ่งกว่าการเคลื่อนที่ของราคา หรืออารมณ์ของตลาด
แม้บางฝ่ายจะวิจารณ์ว่าการวิเคราะห์ของ AJC เป็นการมองแบบมีอคติ แต่เขายืนยันว่านี่ไม่ใช่การคาดเดา AJC ชี้ชัดว่า ดัชนีอย่างจำนวนผู้ใช้งาน หรือปริมาณธุรกรรมที่เพิ่มขึ้นเป็นเพียง ‘ตัวเลขหลอกตา’ และการเติบโตที่แท้จริงควรถูกประเมินบน ‘ความต้องการใช้งานจริงและรายได้สุทธิ’ ไม่ใช่แค่สถิติบนกระดาษ
นักวิเคราะห์บางรายจากเมสซารี่ได้โต้แย้งโดยหยิบยกข้อมูลเชิงบวก เช่น การเพิ่มขึ้นของจำนวนที่อยู่ที่เคลื่อนไหว และธุรกรรมบนเครือข่าย แต่ AJC ย้ำว่า “การเติบโตที่ไม่มีฐานรายได้รองรับคือการเสี่ยงสร้าง ‘ภาพลวงตาที่เปราะบาง’” นอกจากนี้ เขายังตั้งข้อสังเกตว่าแม้จะมีความก้าวหน้าในเทคโนโลยีเลเยอร์ 2 การขยายเหล่านั้นจะ ‘ไร้ค่า’ หากไม่สามารถกระตุ้นดีมานด์ได้จริง
ท่ามกลางข้อถกเถียงเหล่านี้ อีเธอเรียมกลับอยู่ในช่วงที่ทำผลงานไตรมาสสามได้ดีที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยปรับตัวขึ้นกว่า 73% ซึ่งยิ่งทำให้รายงานที่ตอกย้ำปัญหา ‘ความไม่ยั่งยืน’ ของเครือข่ายได้รับความสนใจมากขึ้น *คำสำคัญ: ความไม่ยั่งยืน, รายได้สุทธิ, โครงสร้างพื้นฐาน* เพราะชี้ว่าราคาที่พุ่งสูงอาจไม่สะท้อน ‘คุณค่าที่แท้จริงของเครือข่าย’
ในขณะที่กระแสมองบวกว่าราคาอีเธอเรียมจะพุ่งทะยานต่อยังคงมีอยู่ แต่หากไม่มี ‘การฟื้นตัวของปัจจัยพื้นฐาน’ โดยเฉพาะในแง่ความต้องการของผู้ใช้และความสามารถในการทำรายได้ ความร้อนแรงของราคาในปัจจุบันก็อาจไม่ยืนยาว ผู้เชี่ยวชาญในวงการเริ่มจับตาไปที่ประเด็นระยะยาวมากกว่าข่าวดีระยะสั้น ซึ่งอาจเป็นตัวตัดสินอนาคตของอีเธอเรียมในที่สุด
ความคิดเห็น 0