อีเธอเรียม(ETH) พุ่งเกือบ 100% จุดชนวน 'อัลท์ซีซั่น' มูลค่าตลาดรวมแตะ 1.7 ล้านล้านดอลลาร์

อีเธอเรียม(ETH) พุ่งเกือบ 100% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา จุดชนวนความร้อนแรงให้กับตลาดอัลท์คอยน์อย่างกว้างขวาง โดยมูลค่าตลาดรวมของอัลท์คอยน์พุ่งแตะประมาณ 2,363 ล้านล้านวอน (ราว 1.7 ล้านล้านดอลลาร์) ใกล้ระดับสูงสุดที่เคยทำไว้ในปี 2021 ขณะที่บิตคอยน์(BTC) ยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบ อัลท์คอยน์ส่วนใหญ่กลับแสดงพลังเหนือกบิตคอยน์ โดยกว่า 78% ของเหรียญชั้นนำ 50 รายการสามารถให้ผลตอบแทนที่เหนือกว่า ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ‘อัลท์ซีซั่น’ อาจได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

Daan Crypto Trades นักวิเคราะห์สายเทคนิคประเมินว่า "หากดูจากการที่อัลท์คอยน์แสดงความแข็งแกร่งเหนือบิตคอยน์ต่อเนื่องเกิน 3 เดือน นี่คือสถานการณ์ของอัลท์ซีซั่นอย่างชัดเจน" โดยเฉพาะอีเธอเรียมที่พุ่งขึ้นเกือบสองเท่าในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ขับเคลื่อนการฟื้นตัวของตลาด ในขณะเดียวกัน โซลานา(SOL) และอวาแลนช์(AVAX) ก็สร้างผลตอบแทนรายสัปดาห์ 8% และ 17% ตามลำดับ ดึงดูดความสนใจของนักลงทุนอย่างมาก

มูลค่าตลาดรวมของคริปโตทั้งหมดปรับตัวขึ้นแตะประมาณ 5,699 ล้านล้านวอน (ราว 4.1 ล้านล้านดอลลาร์) ทว่าส่วนใหญ่ของแรงซื้อยังคงกระจุกตัวอยู่ในเหรียญขนาดใหญ่ Daan ระบุว่า "การฟื้นตัวรอบนี้ยังไม่แผ่ขยายไปถึงเหรียญขนาดกลางและเล็ก และยังห่างไกลจากการเกิดภาวะฟองสบู่การลงทุนแบบที่เคยเกิดขึ้นในปี 2017 หรือ 2021" เขาเสริมว่า “โอกาสในการกระจายตัวลงสู่กลุ่มล่างอาจเกิดขึ้นในอนาคต แต่ไม่ควรคาดหวังว่าทุกเหรียญจะขยับขึ้นไปพร้อมกันแบบในอดีต”

ด้านบิตคอยน์เองยังคงซื้อขายอยู่ใต้ระดับ 115,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 15.9 ล้านบาท) หลังจากตัวเลข CPI ของสหรัฐช่วงเดือนสิงหาคมถูกเปิดเผย แม้มีแรงซื้อบ้าง แต่ความสนใจหลักของนักลงทุนตอนนี้กลับไปโฟกัสที่การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(Fed)ในวันที่ 17 กันยายน ซึ่งจะมีการตัดสินใจ ‘อัตราดอกเบี้ย’ หาก Fed คงท่าทีผ่อนคลาย ความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอาจเพิ่มขึ้นและช่วยส่งเงินทุนเข้าสู่อัลท์คอยน์ได้ แต่หาก Fed แสดงท่าทีเข้มงวด การฟื้นตัวของตลาดอัลท์อาจหยุดชะงักเสียก่อน

มุมมองจากนักวิเคราะห์เชิงเทคนิคก็เผยให้เห็นภาพที่หลากหลาย ไมลส์ ดอยชท์เชอร์(Miles Deutscher) ให้ความสนใจไปที่ดัชนี TOTAL3 ซึ่งวัดเฉพาะกลุ่มอัลท์คอยน์ที่ไม่รวมบิตคอยน์และอีเธอเรียม โดยระบุว่า “ดัชนีรายสัปดาห์ของ TOTAL3 กำลังประชิดแนวต้านสำคัญ และมีโอกาสเกิดการเบรคเอาท์” ขณะที่แอกเซล แอดเลอร์ จูเนียร์(Axel Adler Jr.) เตือนว่าหลายเหรียญในตลาดยังมี ‘ปริมาณซื้อขายต่ำ’ ทำให้ “แม้ราคาทะลุแนวต้านก็ยังเสี่ยงถูกเทขายและเกิดการ *ปรับฐานรุนแรง* ได้ง่าย”

ท้ายที่สุด ความสำเร็จของอัลท์ซีซั่นครั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถของเหรียญขนาดใหญ่ในการรักษาความแข็งแกร่ง พร้อมกับ ‘การกระจายแรงซื้อ’ ถึงกลุ่มเหรียญขนาดกลางและเล็ก Daan ชี้ว่า “ไม่ใช่ทุกเหรียญจะให้ผลตอบแทนดี นักลงทุนควรเลือกลงทุนในเหรียญที่มีแนวโน้มแข็งแกร่ง” ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับช่วงเวลานี้ เหลือเพียงแค่รอดูว่าอัลท์ซีซั่นรอบนี้จะสามารถ ‘ขยายตัวไปทั่วตลาด’ เหมือนรอบก่อนหรือไม่ ตลาดคริปโตยังน่าจับตามองในทุกย่างก้าวจากจุดนี้เป็นต้นไป