ถึงแม้ตลาดมิติเหรียญคริปโตสายขำหรือ *มีมคอยน์* จะซบเซาลงในระยะหลัง แต่ *คีธ เอ. กรอสแมน(Keith A. Grossman)* ประธานบริษัทด้านโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงิน *มูนเพย์(MoonPay)* ยืนยันว่า *มีมคอยน์* ยังห่างไกลจากคำว่าสิ้นสุด พร้อมเน้นย้ำว่าเหรียญเหล่านี้กำลังเข้าสู่เฟสใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในรูปแบบที่แตกต่างจากเดิม
กรอสแมนระบุว่า จุดเปลี่ยนที่แท้จริงของ *มีมคอยน์* ไม่ได้อยู่ที่ราคาหรือการเก็งกำไรเท่านั้น แต่เป็นเพราะมันได้พิสูจน์ว่า ‘ความสนใจ’ (*attention*) สามารถถูก *โทเคนไนซ์* ได้ง่ายและมีต้นทุนต่ำ โดยเฉพาะบนแพลตฟอร์มบล็อกเชน ก่อนหน้านี้การเปลี่ยนความสนใจเป็นรายได้มีเพียงแบรนด์ใหญ่ แพลตฟอร์ม หรืออินฟลูเอนเซอร์บางกลุ่มเท่านั้นที่ทำได้ แต่การมาของบล็อกเชนได้เปิดโอกาสให้ ‘ทุกคน’ มีสิทธิ์ในการเปลี่ยนความสนใจให้กลายเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจ
“ก่อนยุคคริปโต ความสนใจถูกนำไปสร้างรายได้โดยแพลตฟอร์ม แบรนด์ หรือผู้มีอิทธิพลไม่กี่ราย ส่วนผู้ใช้ทั่วไปที่สร้างเนื้อหาหรือกระแสกลับไม่ได้อะไรเลย” กรอสแมนกล่าว พร้อมย้ำว่าการปฏิสัมพันธ์ออนไลน์ เช่น การกดไลก์ กระแสนิยม มีม และชุมชน ต่างมีมูลค่าทางเศรษฐกิจมหาศาลที่ยังถูกมองข้าม
มุมนี้สะท้อนผ่านเหรียญมีมอย่าง *โดจคอยน์(DOGE)*, *บองก์(BONK)* และ *ฟลอคกี้(FLOKI)* ซึ่งแม้จะออกแบบมาจากอารมณ์ขันและมีมอินเทอร์เน็ต แต่กลับกลายเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในยุค ‘*เศรษฐกิจแห่งความสนใจ*’ และเมื่อรวมกับความสามารถของบล็อกเชนในการแปลงความสนใจให้เป็นสินทรัพย์ ก็ยิ่งตอกย้ำว่าการเติบโตของมีมคอยน์นั้นไม่ได้หยุดอยู่แค่ความบันเทิง
แม้ในช่วงนี้ตลาดคริปโตจะเผชิญกับภาวะสภาพคล่องตึงตัวและแรงกดดันด้านกฎระเบียบ แต่ก็ยังมีความเชื่อว่ามีมคอยน์สามารถ ‘กลับมา’ ได้ในรูปแบบอื่นที่แตกต่างออกไป ตัวอย่างเช่นโครงการอย่าง *Pump.fun* และ *PENGU* ที่ผนวกเทคโนโลยี *NFT* และชุมชนเข้าไว้ด้วยกัน กำลังสะท้อนการพัฒนาในแนวทางใหม่ของเหรียญแนวนี้
เมื่อพิจารณา *มีมคอยน์* ในฐานะเครื่องมือทดลองสำหรับ *เศรษฐกิจเนื้อหาที่ไร้ศูนย์กลาง* ก็ยิ่งทำให้เห็นภาพชัดว่ามันมีอะไรมากกว่าความคลั่งไคล้ชั่วครั้งชั่วคราว และยังคงมีบทบาทสำคัญในโครงสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลของอนาคต
‘*ความคิดเห็น*’: ไม่ใช่แค่ราคาหรือกราฟเท่านั้นที่ควรมอง การเข้าใจโครงสร้างเศรษฐกิจความสนใจและโมเดลการมีส่วนร่วมของชุมชน คือกุญแจสำคัญของโลกคริปโตในยุคต่อไป โดย *มีมคอยน์* กำลังกลายเป็นเวทีสำคัญของการทดลองในทิศทางนี้
ความคิดเห็น 0