บริษัทเหมืองขุดบิตคอยน์(BTC) กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในตลาดคริปโตฝั่งการถือครองขององค์กร โดยอาศัย ‘ต้นทุนการได้เหรียญที่ต่ำ’ เป็นจุดแข่งสำคัญในการสร้างอิทธิพลต่อโครงสร้างตลาดฝั่งองค์กรในช่วงครึ่งปีหลัง จากรายงานล่าสุดของเว็บไซต์ BitcoinTreasuries.NET ระบุว่า กลุ่มบริษัทขุดเหรียญกำลังกลายเป็นแกนหลักของการถือครองบิตคอยน์ในหมู่บริษัทจดทะเบียน แทนที่บริษัททั่วไปที่เริ่มชะลอการเข้าซื้อ
พีท ริซโซ(Pete Rizzo) ซีอีโอของ BitcoinTreasuries.NET กล่าวเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า ยอดซื้อบิตคอยน์โดยบริษัทต่าง ๆ ในไตรมาส 4 มีแนวโน้มอยู่ที่ประมาณ 40,000 BTC ซึ่งถือเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2024 สะท้อนให้เห็นแนวโน้มการชะลอตัวของฝั่งองค์กรทั่วไป แต่ในขณะเดียวกัน กลุ่มบริษัทขุดบิตคอยน์กลับสามารถเข้ามาเติมเต็มช่องว่างนี้ได้
ริซโซให้ความเห็นว่า “บริษัทเหมืองขุดได้เปรียบเพราะสามารถรับบิตคอยน์ผ่านรางวัลในการทำบล็อกโดยไม่ต้องซื้อในตลาด ซึ่งต้นทุนที่ต่ำกว่านี้ทำให้พวกเขาสามารถนำเสนอข้อมูลการถือครองที่น่าเชื่อถือในงบการเงิน และรองรับการยอมรับ BTC ในระดับบริษัทได้มากขึ้น” เขายังเสริมว่า แม้บริษัททั่วไปจะชะลอการสะสมเหรียญ แต่บริษัทเหมืองอาจกลายเป็น ‘ผู้รักษาสมดุลหลัก’ ในตลาดองค์กร
ข้อมูล ณ เดือนพฤศจิกายนระบุว่า กลุ่มบริษัทเหมืองถือครองบิตคอยน์ใหม่ที่ผลิตขึ้นราว 5% และคิดเป็น 12% ของการถือครองของทั้งตลาดจากฝั่งบริษัทจดทะเบียน ถือเป็นบทบาท ‘ศูนย์กลางของการถือครองบิตคอยน์ในตลาดองค์กร’ อย่างแท้จริง
ในแง่ของผลผลิต กลุ่มเหมืองขุดสร้างบิตคอยน์เฉลี่ยวันละ 900 BTC โดยเฉพาะบริษัท มารา โฮลดิงส์(MARA Holdings) จากสหรัฐฯ ที่ครองบิตคอยน์ถึง 53,250 BTC ซึ่งจัดอยู่ในลำดับสองในการถือครองมากที่สุดในบรรดาบริษัทจดทะเบียน ด้วยมูลค่าปัจจุบันประมาณ 7,835 ล้านบาท
รายงานนี้สะท้อนให้เห็นว่าการขุดบิตคอยน์ไม่ได้เป็นเพียงกระบวนการสร้างบล็อก แต่ยังถือเป็นกลยุทธ์ในการถือครองสินทรัพย์ที่ส่งผลต่อโครงสร้างตลาด ทางบริษัทเหมืองที่มีความสามารถในการสร้างเหรียญด้วยต้นทุนต่ำ ยิ่งผลักดันให้พวกเขากลายเป็นผู้มีบทบาทสำคัญต่อการยอมรับ BTC ในระดับองค์กร และอาจส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในแนวทางการใช้งานคริปโตของบริษัทแบบดั้งเดิมในอนาคต
‘ความคิดเห็น’: ปรากฏการณ์นี้ตอกย้ำให้เห็นถึงจุดเปลี่ยนของตลาดคริปโตในภาคธุรกิจ ที่อาจเปลี่ยนจาก “ซื้อเพื่อเก็บ” ไปสู่ “ผลิตเพื่อถือ” ซึ่งบริษัทเหมืองขุดมีโอกาสขยายบทบาทอย่างมีนัยสำคัญในยุคที่ตลาดองค์กรเริ่มลังเล
ความคิดเห็น 0