บริษัทร่วมลงทุนขนาดใหญ่อย่างอันเดรีเซน โฮโรวิตซ์(a16z) กำลังรุกตลาดเอเชียอย่างจริงจัง ด้วยการเปิดสำนักงานแห่งแรกในเอเชีย ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เพื่อสนับสนุนสตาร์ทอัพคริปโตในพื้นที่โดยตรง
a16z ระบุว่าสาเหตุสำคัญในการขยายตลาดครั้งนี้มาจากการที่เอเชียมีสัดส่วนผู้ใช้งาน *ออนเชน* สูง โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยบริษัทในพอร์ตการลงทุนของตนให้เติบโตเชิงกลยุทธ์และสร้างชุมชนในภูมิภาคนี้ได้อย่างมั่นคง แอนโทนี อัลบาเนส (Anthony Albanese) ประธานฝ่ายปฏิบัติการของ a16z Crypto กล่าวว่า การเปิดสาขาในเอเชียจะช่วยให้สตาร์ทอัพในพอร์ตเติบโตได้อย่างรวดเร็ว สร้างพันธมิตรที่แข็งแกร่ง และพัฒนาเครือข่ายชุมชนในประเทศต่างๆ ทั่วภูมิภาค
เขาเน้นถึง ‘ศักยภาพของตลาดเกาหลีใต้’ เป็นพิเศษ โดยระบุว่าคนเกาหลีผู้ใหญ่ 1 ใน 3 ถือครอง *สินทรัพย์ดิจิทัล* ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกอย่างมาก ข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์บล็อกเชน ‘เชนแอนะลิซิส’(Chainalysis) ยังเผยว่า อินเดียมีอัตราการยอมรับคริปโตทั่วโลกสูงสุด ญี่ปุ่นมีการใช้งานออนเชนเพิ่มขึ้นกว่า 120% เมื่อเทียบกับปีก่อน และสิงคโปร์ก็เป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการถือครองคริปโตสูงที่สุดในโลก ทั้งนี้ 11 จาก 20 ประเทศที่รับคริปโตในระดับสูงที่สุดอยู่ในเอเชีย ทำให้รูปแบบการขยายของ a16z ถูกวางไว้อย่างมียุทธศาสตร์
a16z กล่าวเพิ่มเติมว่า “นี่เป็นแค่จุดเริ่มต้น” และตั้งใจจะเพิ่มบทบาทของตนในเอเชียอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านทรัพยากรและเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง
สำหรับผู้ดำเนินงานสำนักงานโซลจะเป็น ‘พัคซองโม’ อดีตผู้นำจากโพลิกอนแล็บส์(Polygon Labs) โดยเขากล่าวว่าจะใช้ประสบการณ์และเครือข่ายที่ตนมี เพื่อให้การสนับสนุนบริษัทในพอร์ตของ a16z ในการเข้าสู่ตลาดเกาหลีและเอเชียอย่างมีประสิทธิภาพ
ปัจจุบัน a16z ถือครอง *สินทรัพย์ภายใต้การบริหาร* มูลค่ามากกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 14.7 ล้านล้านวอน) ซึ่งนับเป็นหนึ่งในบริษัทลงทุนรายใหญ่ของอุตสาหกรรม โดยไม่ได้ให้แค่เงินทุน แต่ยังช่วยเหลือในด้านเทคโนโลยี กลยุทธ์ชุมชน และการปรับเข้ากับตลาดท้องถิ่นอีกด้วย การเคลื่อนไหวครั้งนี้แสดงถึงกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการเข้าถึงพื้นที่ซึ่งมีผู้ใช้งานคริปโตจริง แทนที่จะเป็นเพียงแค่การจัดสรรเงินลงทุน
นอกจากนี้ ธนาคารคริปโต ‘ซิกนัม’(Sygnum) ยังเผยผลสำรวจล่าสุดว่ามหาเศรษฐีในเอเชีย 6 ใน 10 รายมีแผนจะเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต โดย 87% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าตนถือครองคริปโตแล้ว และเกือบครึ่งหนึ่งลงทุนมากกว่า 10% ของพอร์ตในสินทรัพย์ดิจิทัล
ด้วยกระแสความสนใจต่อ *สินทรัพย์ดิจิทัล* ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วทั้งเอเชีย การเปิดสำนักงานของ a16z ในโซลครั้งนี้จึงถูกมองว่าเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญของระบบนิเวศบล็อกเชนในภูมิภาค ในเวลาที่โอกาสในการสร้าง *ชุมชนคริปโต* และการยอมรับเทคโนโลยีอยู่ในช่วงขาขึ้นอย่างแท้จริง
ความคิดเห็น 0