ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ประกาศ *ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25%* เหลือที่ระดับ 3.5~3.75% เมื่อวันที่ 12 (เวลาท้องถิ่น) แต่ถ้อยแถลงของประธานเจอโรม พาวเวลล์กลับส่งสัญญาณว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยรอบใหม่อาจไม่เกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ ทำให้นักวิเคราะห์ในตลาดคริปโทยังไม่คาดหวังว่า *บิตคอยน์(BTC)* จะกลับมาแข็งแกร่งในระยะสั้น
แม้การปรับลดดอกเบี้ยจะเป็นสัญญาณเชิงบวกในเบื้องต้นต่อตลาดสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึงคริปโตเคอร์เรนซี แต่พาวเวลล์ให้ความเห็นว่า "ปัจจัยเสี่ยงด้านเงินเฟ้อยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น ขณะที่ตลาดแรงงานเริ่มอ่อนแรงลง" พร้อมเสริมว่า "ไม่มีกลยุทธ์ใดในตอนนี้ที่ปลอดภัยอย่างแท้จริง" ซึ่งเป็นถ้อยความที่สื่อถึงท่าทีระมัดระวังและอาจ ‘ไม่ผ่อนคลายเชิงนโยบาย’ ในเร็ววัน
แหล่งข่าวระบุว่าส่วนใหญ่ของนักลงทุนในตลาดคาดว่า *Fed จะดำเนินนโยบายลดดอกเบี้ยอีกเพียง 1 ครั้งเท่านั้นจนถึงสิ้นปี 2026* โดย *ความคิดเห็น* จากนิค เพอร์คลิน นักวิเคราะห์จากโคอินแบร์โรว์ (CoinBureau) ระบุว่า “แม้ในวันนี้จะมีการประกาศเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาล แต่จนกว่าจะเห็นสัญญาณร้าวในระบบเศรษฐกิจอย่างชัดเจน จึงเป็นไปได้ยากที่ Fed จะเดินหน้า *นโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)* อย่างเต็มรูปแบบ” เขาเสริมว่า “สถานการณ์นี้มีแนวโน้มสร้างความผันผวนสูงขึ้นให้กับตลาด”
โดยทั่วไปแล้ว สินทรัพย์ดิจิทัลอย่างบิตคอยน์มักแข็งแกร่งในสภาพแวดล้อมดอกเบี้ยต่ำ เนื่องจากนักลงทุนจะหันไปถือ *สินทรัพย์เสี่ยง* มากขึ้น อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลตลาดพบว่ามีเพียง 24.4% ของนักลงทุนที่คาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะถูกปรับลดเพิ่มเติมในการประชุม FOMC ช่วงต้นเดือนมกราคม 2026 ซึ่งสะท้อนมุมมองว่าการผ่อนคลายอาจเกิดขึ้นช้ากว่าที่หวัง
แม้ในระยะสั้น การลดดอกเบี้ยจะส่งผลเชิงบวกเล็กน้อย แต่จากจุดยืนล่าสุดของ Fed มีความเป็นไปได้สูงที่ *ราคาของบิตคอยน์และคริปโตเคอร์เรนซีอื่น ๆ* อาจยังไม่สามารถกลับเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นในเร็ว ๆ นี้ ทิศทางในอนาคตของสินทรัพย์ดิจิทัลจึงยังขึ้นอยู่กับสองตัวแปรหลัก นั่นคือการขยายสภาพคล่องจากธนาคารกลาง และนโยบายด้านงบดุลต่อไป
*ความคิดเห็น*: นักลงทุนควรจับตาสัญญาณเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของนโยบายการเงินมากกว่าการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยเพียงอย่างเดียว เพราะทิศทางของ *การอัดฉีดสภาพคล่อง* จะเป็นปัจจัยหลักที่ชี้ชะตาตลาดจริง ๆ ในรอบนี้
ความคิดเห็น 0