นักวิเคราะห์ชี้ บิตคอยน์(BTC) ยังไม่แตะจุดต่ำสุด – คาดอาจต้องรอถึงปลายปี 2026 ก่อนฟื้นตัว

นักวิเคราะห์คาด ‘บิตคอยน์(BTC)’ ยังไม่แตะจุดต่ำสุด – อาจต้องรอลากยาวถึงปลายปี 2026

ตลาดบิตคอยน์(BTC) อาจยังไม่ถึงจุดต่ำสุดในรอบนี้ และมีแนวโน้มต้องรอถึงช่วงปลายปี 2026 กว่าที่ราคาจะกลับฟื้นตัวได้อย่างสมบูรณ์ นี่คือมุมมองจากเจสัน พิซิโน นักวิเคราะห์คริปโตชื่อดัง ซึ่งได้เปิดเผยผ่านวิดีโอวิเคราะห์ล่าสุดใน YouTube

พิซิโนชี้ว่า บิตคอยน์อาจยังคงปรับฐานสร้างระดับ ‘แนวรับใหม่’ ต่อเนื่องตลอด 12 เดือนข้างหน้า โดยเขาให้ความเห็นว่า “ตอนนี้ เรายังไม่สามารถสรุปได้ว่านี่คือจุดเริ่มต้นของแนวโน้มขาขึ้นครั้งใหม่ หรือเป็นเพียงจุดพักก่อนเข้าสู่การปรับฐานขาลงอีกระลอก”

เขายังอธิบายเพิ่มเติมโดยเชื่อมโยงทฤษฎี ‘วัฏจักร 18 ปี’ ที่ปรากฏในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งชี้ให้เห็นว่าตลาดสินทรัพย์เสี่ยงทั้งหมดกำลังอยู่ในช่วง ‘รอดูท่าที’ และยังไม่พร้อมสำหรับการปรับขึ้นราคาครั้งใหญ่

ขณะนี้ ราคาบิตคอยน์กำลังเจอกับแนวต้านทางเทคนิค โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน ซึ่งมีบทบาทเป็นแนวต้านสำคัญ นอกจากนี้ ข้อมูลจากตลาดฟิวเจอร์สบิตคอยน์ยังแสดงให้เห็นว่า อัตราส่วนการเปิดสถานะ ‘ลอง’ (ซื้อ) และ ‘ชอร์ต’ (ขาย) อยู่ในระดับสมดุล สะท้อนว่าตลาดยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจน

หนึ่งในสัญญาณที่น่ากังวลคือ ปริมาณการซื้อขายที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง พิซิโนระบุว่า “การลดลงของวอลุ่มการซื้อขายช่วงนี้ คล้ายกับภาพที่เกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2022 ถึงต้นปี 2023 ซึ่งอาจนำไปสู่การเคลื่อนไหวของราคาที่ ‘เหนือความคาดหมาย’ ขณะที่นักลงทุนกำลังผ่อนคลายความระมัดระวัง”

แม้ว่าสถานการณ์ปัจจุบันจะยังไม่เข้าสู่ภาวะตลาดกระทิงเต็มรูปแบบ แต่พิซิโนกลับมองว่าการลดความถี่ของแรงขายเริ่มสะท้อนถึง ‘แรงส่งบวก’ ที่อาจเกิดขึ้นในระยะกลางถึงระยะยาว โดยเขาคาดว่า ‘ราคาบิตคอยน์อาจมีโอกาสพุ่งขึ้นแตะระดับ 99,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1.45 ล้านบาท’ ในรอบการขึ้นครั้งถัดไป

ในขณะเดียวกัน สัญญาณจากปริมาณการซื้อขายต่ำและแรงขายที่ลดลง อาจเป็นการบ่งชี้ว่าตลาดกำลังสร้างฐานสำหรับการรีบาวด์ในอนาคต พิซิโนให้ความเห็นว่า “กรอบเวลารอบนี้ อาจเป็นส่วนหนึ่งของวัฏจักรราคาระยะยาว และผู้ลงทุนควรเสริมกลยุทธ์ด้วยความเข้าใจต่อวัฏจักร มากกว่าการหวังผลระยะสั้น”

*ความคิดเห็น: ตลาดคริปโตยังอยู่ในช่วงพักฐาน นักเทรดควรจับตาดู ‘วอลุ่มการซื้อขาย’ และปัจจัยเชิงจิตวิทยา มากกว่าการไล่ราคาช่วงสั้น*