ริปเปิล(XRP) กำลังเผชิญความกังวลจากนักลงทุน หลังราคาหล่นต่ำกว่าระดับ ‘แนวรับสำคัญที่ 3 ดอลลาร์’ ซึ่งเป็นจุดที่ตลาดจับตามองอย่างใกล้ชิด โดยการปรับตัวลงครั้งนี้เกิดจากแรงขายของนักลงทุนรายใหญ่หรือ ‘วาฬ’ ที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบจากสำนักงาน ก.ล.ต. สหรัฐ(SEC) เกี่ยวกับกองทุน ETF ที่อิงกับ XRP
ตามข้อมูลจากนักวิเคราะห์คริปโตชื่อ อาลี มาร์ติเนซ(Ali Martinez) ช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนวาฬได้เทขาย XRP กว่า 160 ล้านเหรียญ หรือราว 5 พันล้านดอลลาร์(ประมาณ 6.95 หมื่นล้านบาท) โดยมีช่วงหนึ่งเทขายถึง 40 ล้านเหรียญภายในวันเดียว คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 1.2 พันล้านดอลลาร์(ราว 1.67 หมื่นล้านบาท)
แม้จะเผชิญแรงขายอย่างหนัก XRP ก็สามารถยืนเหนือระดับ 3 ดอลลาร์ได้ช่วงหนึ่ง โดยเมื่อวันเสาร์ ราคาพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบเดือนที่ 3.19 ดอลลาร์ แต่การฟื้นตัวดังกล่าวอยู่ได้เพียงช่วงสั้น ก่อนจะถูกกดดันจากการทำกำไรของวาฬ และกระแส ‘ปรับฐานกว้าง’ ที่เกิดขึ้นในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในช่วงไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ทำให้ XRP ร่วงทะลุแนวรับสำคัญลงมา
ล่าสุด XRP ลดลงประมาณ 3.5% จากวันก่อนหน้า และร่วงมากกว่า 6.5% จากจุดสูงสุดในช่วงสุดสัปดาห์ การปรับตัวนี้ไม่ได้เกิดจากแรงขายเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นผลจากการที่ SEC ส่งสัญญาณเชิงลบเกี่ยวกับการอนุมัติกองทุน ETF ของ XRP ล่าสุด SEC ได้ออกมาตรการชะลอแผนเปิดตัว ETF ของผู้ประกอบการหลายราย ส่งผลให้ความไม่แน่นอนถาโถมเข้าใส่ระบบนิเวศของริปเปิล
ความเคลื่อนไหวนี้สวนทางกับการคาดการณ์เดิมของนักวิเคราะห์หลายคนที่เชื่อว่า XRP จะสามารถทะลุระดับ 3.05 ดอลลาร์ และมุ่งหน้าสู่ราคา ‘จุดสูงสุดตลอดกาล’ ที่ 3.65 ดอลลาร์ในเดือนกรกฎาคม ความไม่แน่นอนครั้งนี้จึงเป็นเครื่องยืนยันถึง ‘ความยากในการคาดเดาของตลาดคริปโต’
ริปเปิลเป็นโครงการหลักของเครือข่ายการโอนเงินข้ามพรมแดน และ XRP ถือเป็นสินทรัพย์หลักที่ใช้ในการดำเนินธุรกรรม ส่งผลให้ราคาของมันอ่อนไหวต่อข่าวสาร โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของแรงซื้อขายจากวาฬ และท่าทีของ SEC ดังนั้น นักลงทุนจึงควรจับตาความเคลื่อนไหวเหล่านี้อย่างใกล้ชิด และ ‘เลือกกลยุทธ์อย่างรอบคอบ’ เพื่อบริหารความเสี่ยงในตลาดที่ไร้ความแน่นอนนี้ต่อไป
ความคิดเห็น 0