โรบินฮู้ดเปิดตัวกองทุนร่วมลงทุน RVI ดึงนักลงทุนรายย่อยลุยสตาร์ทอัพบล็อกเชน-เว็บ3

โรบินฮู้ดเปิดประตูสู่ตลาดร่วมลงทุนสำหรับนักลงทุนรายย่อย ด้วยการเปิดเผยแผนก่อตั้ง ‘กองทุนร่วมลงทุนแบบปิด’ ที่จะเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถเข้าถึงพอร์ตการลงทุนในภาคสตาร์ทอัปได้เป็นครั้งแรก จากข้อมูลที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) โรบินฮู้ดระบุว่าบริษัทเตรียมจัดตั้งกองทุน ‘โรบินฮู้ด เวนเชอร์ส ฟันด์ 1(Robinhod Ventures Fund I, RVI)’ ผ่านทางบริษัทในเครือชื่อโรบินฮู้ด เวนเชอร์ส DE

หากได้รับอนุมัติจาก SEC กองทุน RVI จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) และสามารถซื้อขายได้บนแพลตฟอร์มโบรกเกอร์ทั่วไปเทียบเท่าหุ้นทั่วไป ทั้งนี้โรบินฮู้ดได้ยื่นฟอร์ม N-2 ต่อ SEC เพื่อเปิดทางสู่การระดมทุนขั้นต่อไป

แม้ยังไม่มีการเปิดเผยชื่อบริษัทที่กองทุนนี้จะลงทุนด้วยอย่างเป็นทางการ แต่โรบินฮู้ดระบุว่าเม็ดเงินจากกองทุนจะถูกนำไปลงทุนใน ‘บริษัทที่อยู่แถวหน้าของแต่ละอุตสาหกรรม’ โดยทั่วไปแล้ว กองทุนประเภทนี้มักมุ่งเน้นไปที่อุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่เติบโตเร็วเช่น บล็อกเชน, ปัญญาประดิษฐ์(AI) และเว็บ 3(Web3) ซึ่งอาจครอบคลุมถึงโครงการกระจายศูนย์บนอีเธอเรียม(ETH), หรือแพลตฟอร์มเลเยอร์1 อย่างโซลานา(SOL) อีกด้วย

ความแตกต่างหลักของกองทุน RVI คือการเปิดให้ ‘นักลงทุนรายย่อย’ เข้าถึงสินทรัพย์ร่วมลงทุนที่ก่อนหน้านี้จำกัดอยู่เฉพาะนักลงทุนสถาบันหรือผู้มีสินทรัพย์สูงเท่านั้น ตลาดเวนเชอร์แคปิทัลมีลักษณะเฉพาะที่มีความเสี่ยงและสภาพคล่องต่ำ จึงทำให้การเข้าถึงของผู้ลงทุนทั่วไปเป็นไปได้ยาก อย่างไรก็ตาม โรบินฮู้ดพยายามปูทางใหม่ให้ผู้ใช้สามารถลงทุนในสตาร์ทอัประยะเริ่มต้นได้โดยตรง

การประกาศในครั้งนี้บ่งชี้แนวโน้มใหม่ของโรบินฮู้ดในการปรับตัวเป็นมากกว่าบริษัทโบรกเกอร์ โดยมุ่งขยายไปสู่บทบาทของผู้เล่นลงทุนโดยตรงในระบบนิเวศ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณเชิงกลยุทธ์ว่าโรบินฮู้ดกำลังเดินหน้าเข้าสู่พื้นที่การลงทุนที่ซับซ้อนและมีผลตอบแทนที่สูงกว่า สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับขนาดการระดมทุนและกลยุทธ์การบริหารจัดการ จะมีการเปิดเผยภายหลังจากผ่านกระบวนการอนุมัติเรียบร้อยแล้ว

*ความคิดเห็น*: แนวทางนี้อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่กระตุ้นให้แพลตฟอร์มอื่นเข้ามาเปิดตลาดร่วมลงทุนสำหรับผู้ใช้ทั่วไปมากขึ้น นับเป็นสัญญาณว่าการเงินบนโลกคริปโตกำลังเดินหน้าเข้าสู่ยุคของการเข้าถึงได้โดยแท้จริง